สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB21DA และLB145B (รุ่นอายุ 4.6 ปี 9.1 ปี 1.5 ปี และ ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,618 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB19OA) มูลค่า 255 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT149A) มูลค่า 162 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCCC19OA) มูลค่า 128 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 545 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 3,950 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 458 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ มูลค่า 5,224 ล้านบาท
Yield Curve ค่อนข้างคงที่ในทุกช่วงอายุของตราสาร เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆที่มากระทบตลาด โดยนักลงทุนยังคงจับตาดูปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรป หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ปรับลดการคาดการณ์ GDP 17 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) และปัญหาการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐฯ ด้านนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายในตราสารอายุไม่เกิน 5 โดยมียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 5,224 ล้านบาท