ล่าสุดเมื่อ 11.24 น.หุ้น BTS อยู่ที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+1.60%)มูลค่าซื้อขาย 478.41 ล้านบาท
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง(BTS)ให้มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 7.7 — 8.0 บาท โดยเลือกเป็น Top Pick มีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการและมูลค่าพื้นฐาน BTS ขึ้นอีก เนื่องจาก บ.ย่อยของ BTS คือ BTSC ซึ่งเป็นผู้ลงทุนโครงการรถไฟฟ้าตามสัญญาสัมปทาน (อายุคงเหลือ 17 ปี) ยังมีแผนจะนำธุรกิจรถไฟฟ้าใน 2 เส้นทางหลัก คือ 1) อ่อนนุช-หมอชิต และ 2) ตากสิน — สนามกีฬาฯ มาขายเข้ากองทุน Infrastruture Fund ซึ่งหากสามารถขายได้จริงตามแผน จะทำให้ BTS มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์สัมปทานรถไฟฟ้าเข้ามาครั้งเดียวในจำนวนมหาศาล(ส่วนที่เหลือมูลค่าทางบัญชีซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 4.5 หมื่นล้านบาท),
BTS จะได้รับค่าจ้างจากการเป็นผู้รับจ้างบริหารต่อ และ BTS จะรับรู้รายได้เงินปันผลจากการถือหุ้นในกองทุน Infrastructure Fund ดังกล่าวราว 33.33% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ยังถือเป็น Upside ส่วนเพิ่มที่มีโอกาสให้ขยับมูลค่าพื้นฐานหุ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ BTS จะประกาศงบการเงินงวด 2Q55/56 เย็นวันนี้ จาก 2 ประเด็นหลัก คือ 1) VGI (บ.ย่อยของ BTS ถือหุ้นทางอ้อม 96.4% ในงวด 2Q55/56 ถือหุ้น 68.2% หลังจากเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา) ประกาศผลกำไรสุทธิงวด 2Q55/56 สูงกว่าที่คาด ส่งผลให้มีการทบทวนมูลค่าพื้นฐานของ VGI ขึ้นจาก 50 บาท 78 บาท จึงเป็นผลดีทางอ้อมต่อ BTS
2) ขณะที่นโยบายของ BTS ที่ให้ความสำคัญของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น้อยลงเพื่อเน้นธุรกิจหลัก เริ่มเห็นได้ชัดเจนหลังจากการประกาศขาย บริษัทย่อย ซึ่งถือครองที่ดินรอการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะ 2 เดือนหลัง ทำให้เชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นการขายทรัพย์สินที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาบางส่วน ขณะที่จะมีการร่วมทุนกับผู้ประกอบการอื่นๆ ไปพัฒนาในทรัพย์สินในบางพื้นที่ที่มีศักยภาพ อาทิ ทิ่ดินเปล่าบริเวณสถานีรถไฟฟ้าพญาไท ส่งผลให้มีแนวโน้มทบทวนวิธีการประเมินมูลค่าธุรกิจอสังหาฯ จากเดิมที่อิง PER เป็น PBV แทนเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโครงสร้างธุรกิจ