ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ในปีนี้ลงเหลือ 4.5-4.7 พันล้านบาท จากเดิม 7 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 5.2 พันล้านบาท โดยมีปริมาณขายถ่านหินในปีนี้ประมาณ 1.6 ล้านตัน
ส่วนในปี 56 คาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มเป็น 2.2 ล้านตัน รายได้ 6 พันล้านบาท และแนวโน้มกำไรสุทธิจะทำนิวไฮ เนื่องจากคาดว่าจะมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 6.5-7% จากเดิม 4.5% เป็นผลจากการที่บริษัทลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์หลังสร้างคลังสินค้าและท่าเรือแห่งใหม่แล้วเสร็จในปีหน้า ขณะที่ออร์เดอร์จากจีนตอนนี้เริ่มกลับมาดีเหมือนเดิมแล้ว และช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวก็เชื่อว่าจะมีความต้องการสูง รวมทั้งราคาถ่านหินในตลาดโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้น
นายพนม กล่าวว่า แนวโน้มตลาดถ่านหินปีหน้า ราคาถ่านหินน่าจะยืนเหนือ 90 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยราคาซื้อขายล่วงหน้าขึ้นไปใกล้ 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน เพราะความต้องการในจีนเริ่มสูงขึ้น หลังเปลี่ยนผู้นำใหม่ ส่วนปัญหาในยุโรปคาดว่าจะไม่แย่ไปกว่านี้ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะดีขึ้นหลังผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดี เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเดินหน้าต่อไปได้
ตลาดจีนเป็นตลาดหลักของบริษัท เมื่อยอดส่งออกไปจีนลดลงก็กระทบกับรายได้บริษัทในปีนี้ โดยปีนี้มีสัดส่วนรายได้ส่งออกเหลืออยู่ที่ 25% จากปีก่อนอยู่ที่ 30% แต่ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 40% และอีก 2 ปี คาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% ขึ้นไป และในปีหน้าคาดว่าจะได้ตลาดอินเดียเข้ามาเพิ่มเติม โดยน่าจะเริ่มส่งออกได้ภายในครึ่งแรกของปี 56 นอกจากนี้ บริษัทก็ยังหาตลาดในเอเชียเพิ่มเติมทั้งฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และเวียดนาม เป็นต้น เนื่องจากเห็นว่าความต้องการในประเทศเติบโตไม่มากหรือประมาณปีละ 5-10% ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
ส่วนแผนการเข้าซื้อเหมืองในอินโดนีเซียเพิ่มเติมนั้น นายพนม กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทในประเทศอินโดนีเซียที่ AGE ถือหุ้น 100% ภายใต้ทุนจดทะเบียน 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี.
ขณะเดียวกัน บริษัทร่วมกับบริษัทในอินโดนีเซียมีทั้งจดทะเบียนในตลาดและยังไม่เข้าตลาด ร่วมเจรจาเข้าซื้อเหมืองถ่านหิน หรือร่วมทุนในบริษัทย่อยในอินโดนีเซีย โดยเหมืองที่พิจารณาอยู่จะมีปริมาณสำรองประมาณ 30-40 ล้านตัน โดยคาดว่าจะสรุปการเจรจาได้ในปีหน้า อย่างไรก็ตามมองว่าช่วงนี้ยังเป็นจังหวะเข้าซื้อเหมือง เพราะราคาถ่านหินยังไม่สูง
ด้านนายสมยศ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน AGE กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมเงินทุนในการเข้าซื้อเหมือง ราว 800 ล้านบาทที่มาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนและเพียงพอกับดีลรวม 2-3 พันล้านบาท โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน