ทั้งนี้ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BTS จะขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิซึ่งจะได้รับจากการดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลักตามสัญญาสัมปทานให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ซึ่งอยู่ในขั้นตอนเตรียมการเพื่อยื่นขออนุญาตจัดตั้งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)และเพื่อเป็นการสนับสนุนธุรกรรมดังกล่าว บริษัทฯจะให้การสนับสนุนบางประการ และค้ำประกันการปฏิบัติหน้าที่ของบีทีเอสซี
ภายหลังจากที่ ก.ล.ต.อนุมัติการจัดตั้งกองทุนแล้ว บริษัทฯ มีแผนที่จะจองซื้อหน่วยลงทุนจำนวนหนึ่งในสาม หรือประมาณร้อยละ 33.33 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนที่ออกจำหน่ายในการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยบริษัทจัดการกองทุน และภายหลังการจัดตั้งกองทุนหน่วยลงทุนทั้งหมดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ในการทำธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว BTSC คาดว่าจะได้รับค่าตอบแทนจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้แก่กองทุนประมาณ 50,000 - 60,000 ล้านบาท หรืออาจสูงกว่านั้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น สภาวะของตลาดในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ราคาขายจะต้องไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท
ภายหลังจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้แก่กองทุนแล้ว บีทีเอสซียังคงเป็นผู้ดำเนินงานระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสต่อไป และบริษัทฯ ยังคงมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในธุรกิจระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และได้รับผลตอบแทนจากธุรกิจดังกล่าว(ผ่านการเข้าถือหน่วยลงทุนของกองทุนจำนวนร้อยละ 33.33 และผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล)
สำหรับแผนการใช้เงินที่กลุ่มบริษัทบีทีเอสได้รับจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้แก่กองทุนนั้น สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือเงินจำนวนนี้จะทำให้กลุ่มบริษัทบีทีเอสมีศักยภาพในการเตรียมความพร้อมเพื่อพิจารณาโอกาสที่จะสามารถเข้าไปลงทุนในโครงการขนส่งมวลชน 4 เส้นทางที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สิ่งสำคัญต่อมาคือเงินส่วนหนึ่ง บริษัทฯ จะนำไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ เป็นผู้ถือหน่วยลงทุนถึงจำนวน 1/3 ของกองทุน และทำให้บริษัทฯในฐานะผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับเงินปันผลจากกองทุนอีกทางหนึ่งในอนาคต
นอกจากนี้แล้ว หากบริษัทฯยังมีเงินสดคงเหลือ และมีสภาพคล่องที่ดี บริษัทฯก็มีแผนการที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการหรือที่ประชุมผู้ถือหุ้น (แล้วแต่กรณี)พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ด้วยอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดีในเรื่องการจ่ายเงินปันผลพิเศษนี้ บริษัทฯก็ยังต้องพิจารณาประกอบกับแผนการและความต้องการใช้เงินลงทุนในอนาคต ตลอดจนข้อจำกัดทางกฎหมายและปัจจัยอื่นๆ ด้วย
บริษัทฯ กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 ในวันอังคารที่ 18 ธันวาคม 2555 กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2555 (Record Date) ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2555 และวันรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม)โดยการปิดสมุดทะเบียนและพักการโอนหุ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555