"บริการโทรศัพท์พื้นฐาน ปัจจุบันทีโอทีครองส่วนแบ่งลูกค้าสูงสุดเกือบ 4 ล้านราย แต่ในด้านของรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ยังค่อนข้างต่ำมากที่ลูกค้าจ่ายเงินแค่ค่าบริการรายเดือนที่เป็นค่าธรรมเนียมในราคา 107 บาท ดังนั้น สิ่งที่บอร์ดใหม่ต้องทำ คือ ต่อยอดบริการเสริมในรูปแบบไอพีทีวี บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ขณะที่บริการบรอดแบนด์ ต้องเปิดจ้างบริษัท Outsource ให้กับเอกชนในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง เพื่อปิดจุดด้อยของทีโอทีใน เรื่องการทำตลาด แต่ใช้ศักยภาพที่แข็งแรง คือ ความจุของโครงข่ายที่รองรับการใช้งานของลูกค้าได้มาก (Capacity) เช่น เดียวกับโครงข่าย 3 จีเฟส 2 ที่จำเป็นต้องได้รับการสานต่อโดยเร็ว เพราะจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญหลังจากสัมปทานของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ที่จะสิ้นสุดในปี 2558
นอกจากนี้ ยังได้ให้ทีโอทีทำแผนการใช้งานคลื่นความถี่ 900 MHz ที่หลังสัมปทานหมดลง ส่งให้ไอซีทีด้วย ทั้งนี้ ไอซีที เห็นว่าในช่วงแรกหลังสัมปทานหมดจะยังไม่คืนคลื่นให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในทันที แต่จะให้เอกชนดำเนินการให้บริการกับลูกค้าต่อไปอีกระยะเพื่อให้การใช้งานของ ลูกค้ายังเป็นไปต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บอร์ดใหม่ทีโอทีจะประชุมครั้งแรกในวันที่ 15 พ.ย. เพื่อรับรองประธานบอร์ด อย่างเปนทางการ หลังจากนั้นจะเดินหน้าแผนธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ทันที
รมว.ไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า โครงการ 3 จีเฟสแรก มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท จำนวน 5,320 สถานี ของ ทีโอที ไม่สามารถเปิดได้ทันตามกำหนด เดือน ธ.ค.55 เนื่องจากเกิดปัญหาค่อนข้างมาก ส่งผลให้ติดตั้งโครงข่ายเสร็จเพียง 3,000 สถานีเท่านั้น และไม่ประสบความสำเร็จด้านการทำตลาดตามที่ตั้งเป้าไว้ สำหรับโครงการดังกล่าวตามแผนเดิมต้องเริ่มให้บริการได้เต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงกลางปี แต่ในช่วงแรกติดปัญหาเรื่องน้ำท่วมส่ง ผลให้ต้องเลื่อนเป็นเดือน ต.ค.และช้าสุดในเดือน ธ.ค. แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเปิดได้ตามที่กำหนด ถือเป็นความผิดพลาดของ โครงการนี้ เพราะไม่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน
"ยอมรับว่าโครงการ 3 จี เฟส 1 ของทีโอทีล้มเหลว แต่ธุรกิจอื่นของทีโอที ถือว่าดี แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ควรจะนำทรัพย์สินที่ดีและได้เปรียบคู่แข่งมาพัฒนาหรือทำให้ได้เงินมากกว่าที่ควรจะเป็น โดยมองอย่างง่ายๆ ธุรกิจบรอดแบนด์ทีโอทีมีคาปาร์ซิตี้เหนือกว่าคู่แข่ง ดังนั้นทีโอทีควรนำจุดแข็งตรงนี้มาใช้งานให้เป็นปรเโยชน์ และทำให้ลูกค้ามองว่าการบริการไม่ได้ด้อยกว่าคู่แข่งให้ได้" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว