ดังนั้น บริษัทจึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตได้มากกว่า 20-25% จากปี 54 ที่มีรายได้รวมอยูที่ 1,644 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นตั้นบริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาไว้ที่ 19-20% โดยมุ่งเน้นการบริหารประสิทธิภาพด้านการผลิตและผลักดันยอดขายในส่วนของธุรกิจหลักที่บริษัทดำเนินการอยู่ให้เติบอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมไตรมาส 3/55 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.55 ของบริษัทและบริษัทย่อยว่ามีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.6 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 25.3 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 78.3 ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 151.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 35.5
ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 120.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.2 จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ บรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยว บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 22-65 ขณะที่อั ตราส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 20.4 เป็นร้อยละ 22.5 เนื่องจากอัตราการใช้กาลังการผลิต (Utilized Rate) สูงขึ้นโดยเฉพาะสาขาชลบุรี ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง 1.6 ล้านบาท จากการจ่ายคืนชำระหนี้เงินกู้ตามเงื่อนไขการใช้เงินเพิ่มทุน 100 ล้านบาท
"จากภาพรวมทางเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาที่ถือว่ายังขยายตัวได้ดี ส่งผลทำให้ธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ได้รับผลดีตามไปด้วย เห็นได้จากคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร ไม่ว่าจะเป็นนมและนมเปรี้ยว หรือแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส3/55 ของบริษัทออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยเชื่อว่าภาพรวมในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันได้"นายวิวรรธน์ กล่าว