สำหรับผลงานเด่นๆ ของ CMO ที่รอรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/55 ได้แก่ งาน TRUEMove เปิดตัว iPhone 5 , งาน Coke C Day วันโค้กสุขซ่า .. สดชื่นทั่วไทย" ,จัด Nissan Pavilion ในงาน Motor Expo 2012 , Ford First Car Road Show 2012 , 39. Home Pro Expo ครั้งที่16 ,หอจดหมายเหตุ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ ,นิทรรศการถาวรพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.อุบลราชธานี ภายใต้กองทัพภาคที่ 2,ปรับปรุงนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์การขนส่งทางน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และPTT Booth in GASEX 2012 ซึ่งจัดขึ้นที่บาหลี เป็นต้น
“รายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ โดยสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 43% ทำให้มั่นใจว่า ในปีนี้ยอดขายจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูลอีกหลายโครงการ ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 อีกกว่า 200 ล้านบาท"นายเสริมคุณ กล่าว
ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 55 สิ้นสุด 30 ก.ย.บริษัทฯ มีรายได้รวม 878 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ 610 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.64 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 29.91%
ส่วนของผลประกอบการไตรมาส 3/55 (ก.ค.-ก.ย.55) บริษัทฯ มีรายได้ 186 ล้านบาท ลดลง 1 ล้านบาท จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 185 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 2.3 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 27 ล้านบาท
ขณะที่ผลงานไตรมาส 3/55 ที่ปรับตัวลดลง บริษัทฯ มองว่าไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะปกติใน Q3 จะเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจอีเว้นต์อยู่แล้ว แต่จะเป็นช่วงที่ทีมงานทำงานอย่างหนัก เพราะต้องติดต่อหาลูกค้า เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายต่อเนื่องจนถึงต้นปี เป็นช่วงที่ธุรกิจอีเว้นต์คึกคัก สอดคล้องกับมีเทศกาลต่างๆ อาทิ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ,วันปีใหม่ ตลอดจนผู้ประกอบการของภาคเอกชนต่างก็แข่งกันออกแคมเปญส่งท้ายปี จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นโอกาสเติบโตที่ดีของบริษัทฯ " นายเสริมคุณ กล่าว
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษั แบ่งเป็นงานอีเว้นท์ของภาคเอกชน 70% และเป็นโครงการของภาครัฐอีก 30% ซึ่งในส่วนของงานภาครัฐ บริษัทฯ ยังเติบโตได้ดี โดยมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงท้ายปี รัฐบาลมีความชัดเจนในการส่งเสริมการจัดงานมากขึ้น โดยเฉพาะงานประเภทนิทรรศการ ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐมาโดยตลอด
ด้านความคืบหน้าเรื่องขยายงานสู่ตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทฯ ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทำโครงการใหญ่ โดยเชื่อว่าจะจัดตั้งสำเร็จ และทำรายได้ภายในปีหน้า ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังเร่งหาพันธมิตรในอาเซียน เพื่อเป็นเครือข่ายในการขยายงานมากขึ้น ทั้งในประเทศพม่า, ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม ทั้งนี้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะเพิ่มสัดส่วนตลาดต่างประเทศเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 5%