ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะทำยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโต 20% จากปีนี้ และมีอัตรากำไรสุทธิราว 9% โดยได้เร่งผลิตส่งมอบสินค้าให้ลูกค้ารายใหญ่ 5 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่บริษัทส่งมอบสินค้าลักษณะซัพพลายเชนอย่างครบวงจร ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรสุทธิมากขึ้นด้วย
นายพงษ์ศักดิ์ ประธานโล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SVI กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะลงทุน 300-350 ล้านเหรียญในปีหน้าเพื่อปรับปรุงโรงงานแห่งที่ 2 ที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดีที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมในปีก่อน รวมถึงใช้ลงทุนเพื่อเพิ่มยอดขาย ขณะที่มีแผนว่าหากยอดขายเติบโตต่อเนื่องจะมีการปรับปรุงโรงงานผลิตแห่งที่ 5 ต่อไป
"ในไตรมาส 2/55 เป้าหมายคือสถานการณ์ต่างๆน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติก่อนเกิดน้ำท่วมได้ ...ถ้ายอดขายไม่ถึง 70 ล้านเหรียญต่อไตรมาส มาร์จิ้นก็ไม่ขึ้น แต่ถ้ายอดขาย 80 ล้านเหรียญก็จะช่วยเพิ่มมาร์จิ้น 1%"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
บริษัทยังเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทที่จะมีขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.56 เพื่อพิจารณาจ่ายปันผลเป็นหุ้นแทนเงินสด เนื่องจากบริษัทยังมีภาระต้องใช้เงินลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในระยะนี้ ขณะที่โรงงานแห่งที่ 3 ได้มีการย้ายเครื่องจักจากชั้นสองลงมาชั้นหนึ่ง เพื่อประหยัดต้นทุนและร่นระยะเวลาการทำงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายพ.ย.ถึงกลาง ธ.ค.ซึ่งจะทำให้การผลิตเร็วขึ้นและน่าจะผลักดันยอดขายได้มากขึ้น
สำหรับวงเงินชดเชยจากประกันเหตุการณ์น้ำท่วม น่าจะได้รับเงินครบทั้งหมดภายในไตรมาส 1/56 จากปัจจุบันบริษัทได้ทยอยรับแล้ว 600 ล้านบาท จากวงเงินประกันรวม 2 พันกว่าล้านบาท ซึ่งไม่รวมค่าสูญเสียโอกาสการทำธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดน้ำท่วมทำให้การทำประกันภัย บริษัทต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท โดยที่ทุนประกันน้อยลงและไม่รับประกันภัยจากน้ำท่วมด้วย