ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 0.31 จุด วิตกสหรัฐเผชิญหน้าผาการคลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 13, 2012 06:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่าสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 0.31 จุด แตะที่ 12,815.08 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.18 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 1,380.03 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 0.62 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 2,904.26 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่าสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง หรือภาวะที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า ซึ่งภาวะหน้าผาการคลังจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 0.5% ในปีหน้า หากสภาคองเกรสไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาวะหน้าผาการคลังได้ ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า หากสหรัฐล้มเหลวในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังและต้องมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ สหรัฐก็มีแนวโน้มจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในปีหน้า

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากหน่วยงานรัฐบาลและตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกไปอยู่นอกตลาด

นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังจากประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศที่กรุงบรัสเซลส์ในช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ซึ่งหวังว่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้งวดใหม่วงเงิน 3.15 หมื่นล้านยูโร เพื่อนำไปชำระคืนพันธบัตรซึ่งครบกำหนดในวันศุกร์นี้

การประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐสภากรีซอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณปี 2556 ในเช้าวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งรวมถึงมาตรการรัดเข็มขัดต่อไปเพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงวดใหม่จากบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากมีรายงานว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลง 3.5% ต่อปีในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. โดยเป็นการชะลอตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 4.1%

หุ้นเจฟเฟอรีส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 14% หลังจากมีข่าวว่า บริษัทลิวคาเดีย เนชั่นแนล กำลังให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นของเจฟเฟอรีส์ มูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นลิวคาเดียร่วงลง 3%

ส่วนหุ้นแอปเปิลปรับตัวลง 0.8% แต่ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวันหลังจากนักวิเคราะห์จาก CLSA แนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นแอปเปิล เพราะคาดว่าแนวโน้มยอดขายผลิตภัณฑ์ iPhone 5 จะแข็งแกร่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ