ในคดีดังกล่าวโจทก์ระบุว่าจำเลยร่วมกันกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 311,313 และ 315 ฐานร่วมกันกระทำการใดเพื่อช่วยเหลือและให้ความสะดวกกรรมการบริษัททำให้เกิดความเสียหายด้านการยักยอกทรัพย์ทำสัญญาเช่าตึกทีพีไอ ที่กลุ่มผู้ให้เช่าและผู้เช่าเป็นกลุ่มเดียวกันและมีการชำระค่าเช่าล่วงหน้า 90 ปี ตามสัญญาเช่ารวม 4 ฉบับ เป็นเงินมูลค่า 956,842,206 บาท อันเป็นการชำระค่าเช่าล่วงหน้าเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
ในวันนี้ศาลฯ อ่านคำพิพากษาว่า เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยทั้งหมดไม่ได้ทำให้บริษัทเสียหาย อีกทั้งหากกรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้บริษัทเสียหายจริง ผู้จัดการแผนฟื้นฟูก็จะต้องมีการทักท้วง แต่ก็ไม่เคยมีการทักท้วงเรื่องดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าไม่ได้สร้างความเสียหายหรือมีเจตนาทุจริตตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อรับฟังได้ว่าไม่มีการกระทำทุจริตแล้วก็ไม่เกี่ยวยึดเชื่อมโยงให้ผู้อื่นเข้ามากระทำการเพื่อช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกให้กรรมการอื่นเข้ามายักยอกทรัพย์ ศาลจึงเห็นว่าไม่มีความผิด