ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะเข้าไปทำตลาดในสหรัฐมากขึ้น หลังจากที่ในปีนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะสินค้าประเภท Solar inverter ที่ได้เข้าไปเปิดตลาดไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนตลาดภูมิภาคเอเชีย บริษัทฯพยายามรักษาการผลิตสินค้าประเภท Power supplies และ Solar cell ให้มีประสิทธิภาพ และขยายตลาดให้กว้างขึ้น เนื่องจากยังมีความต้องการค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในอินเดีย
บริษัทยังมองโอกาสในการขยายฐานการผลิตเพิ่มเติมไปในแถบอาเซียน นอกเหนือจากฐานผลิต 3 แห่ง ทั้งในไทย อินเดีย และสโลวาเกีย แต่จะต้องคำนึงถึงเรื่องของต้นทุนและความคุ้มค่าของการลงทุน ซึ่งรูปแบบการทำตลาดต่างประเทศยังเป็นการส่งสินค้าจากประเทศไทยไปขายเป็นหลัก
สำหรับแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 4/55 คาดไว้ที่ 200-300 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากไตรมาส 3/55 โดยน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/55 ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลของธุรกิจที่ช่วงปลายปีและต้นปีหน้าที่จะมีการการออก Platform ใหม่ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวสินค้า อย่างเช่น Data center และ Power supplies ทำให้ลูกค้าบางรายรอดูการปรับเปลี่ยนให้เข้าที่ก่อน จึงจะมีการสั่งซื้อสินค้า
อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 4/55 บริษัทฯยังคงเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไร(Margin)สูง โดยเฉพาะสินค้าประเภท Hi-end เพื่อทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเช่นเดียวกับไตรมาส 3/55 ที่สูงขึ้นจาก 7.5% ในไตรมาส 2/55 และทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/55 เติบโตเพิ่มขึ้น 11.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน