ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(backlog)ราว 4,000 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/55 ราว 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ในปี 56 ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานก่อสร้างท่อก๊าซของบมจ.ปตท.(PTT) 2 งาน เป็นงานว่างท่อที่ จ.นครสวรรค์ และนครราชสีมา โดยเส้นนครสวรค์ยื่นประมูลไปแล้วคาดรู้ผลสิ้นเดือน พ.ย.นี้ มูลค่างานที่จะได้รับราว 2,000 ล้านบาท ส่วนเส้นนครราชสีมามูลค่างาน 3,000-4,000 ล้านบาท คาดประกาศให้ยื่นเสนอประมูลไตรมาส 1/56 และรู้ผลช่วงเดือน เม.ย.56
ส่วนงานในต่างประเทศ ขณะนี้รับงานเดิมที่ประเทศโอมานเป็นงานวางท่อก๊าซ แต่จะเซ็นสัญญางานล็อตใหม่ไตรมาส 2/56 อีก 200 กว่าล้านบาท รับรู้รายได้ภายใน 1 ปีจากนั้น
นายภาสิต กล่าวอีกว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการก่อสร้างโรงงานเอทานอลในประเทศกัมพูชา มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นสัดส่วนถือหุ้น 50:50 ประเมินเงินลงทุนในส่วนของ TRC ราว 600 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากกระแสเงินสดและเงินกู้
โรงงานดังกล่าวจะใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก และขายเอทานอลเพื่อป้อนลูกค้าต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี กำลังการผลิตเบื้องต้น 1 แสนลิตร/วัน คาดสรุปแผนการลงทุนได้ภายในปี 56 ซึ่งจะทำให้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จะมาจากการลงทุน 30% ในปี 58 จากปัจจุบันเป็นรายได้จากงานรับเหมาทั้ง 100%
"รายได้จากการลงทุนจะมีรายได้ที่แน่นอนเมื่อเทียบกับงานก่อสร้างจะมีความเสี่ยงเรื่องโครงการภาครัฐ ปิโตรเคมี ซึ่งก็ผันผวนขึ้นอยู่กับภาวะอุตสาหกรรมด้วย เช่น ช่วงมีปัญหามาบตาพุดงานก็ลดลงไป"นายภาสิต กล่าว
บริษัทยังสนใจที่จะศึกษาโอกาสการลงทุนหรือการรับงานในประเทศพม่าด้วย แต่ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย และสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยกู้มากกว่าการลงทุนในประเทศอื่น
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/55 ทั้งรายได้และกำไรจะสูงกว่างวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 600 กว่าล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้รวมปีนี้น่าจะทะลุ 4,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 100% จากปี 54 ที่มีรายได้ 2,262 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท โดยกำไรปีนี้ก็น่าจะโตในทิศทางเดียวกับรายได้ เพราะ 6 เดือนกำไรไปแล้ว 136 ล้านบาท
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากงานในประเทศ 90% งานต่างประเทศ 10% ปีนี้จะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 15% อัตรากำไรสุทธิที่ 7.8%
นายภาสิต เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการย้ายหุ้นจากที่เทรดอยู่ในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ SET ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้าง เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งปัจจุบัน TRC มีคุณสมบัติครบทุกข้อจะเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SET ได้แล้ว