ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/55 ไทยแอร์เอเชียมีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ 82% เพิ่มขึ้น 2 จุด จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขนส่งผู้โดยสารจำนวนประมาณ 2 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้น 21.8% ในขณะที่ 9 เดือนแรกปี 55 มี load factor อยู่ที่ 82% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 81% โดยขนส่งผู้โดยสารกว่า 6 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 19.6% ปีต่อปี โดยในไตรมาส 3/55 บริษัทได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ลำ ส่งผลให้มีฝูงบินเป็นจำนวน 25 ลำ ณ สิ้นไตรมาส
“จากการขยายฝูงบินอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทฯ สามารถขยายการเติบโตในการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ และเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางบินหลักในประเทศได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปีนี้ไทยแอร์เอเชียได้เปิดเส้นทางบินสู่ประเทศจีนถึง 3 เมืองอันได้แก่เมืองฉงชิ่ง อู่ฮั่น และ ซีอาน ซึ่งได้ผลการตอบรับจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายเครือข่ายการบินในอนาคต" นายทัศพล กล่าว
ส่วนการประเมินถึงการย้ายฐานปฏิบัติการการบินมาที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานั้นทำให้สายการบินสามารถบริหารจัดการการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองมีการจราจรทางอากาศที่ไม่แออัด มีขนาดและความเหมาะสมต่อระบบการจัดการของสายการบินราคาประหยัดอย่างแอร์เอเชีย ทำให้ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ อีกทั้งท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองมีสถานที่ตั้งใกล้ใจกลางเมือง สะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะกับผู้โดยสารในประเทศ ฐานปฏิบัติการการบินใหม่นี้สามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี