ขณะที่ปี 56 ผลการดำเนินงานของ KBS จะกลับมาเติบโตได้ในระดับปกติ โดยมีอัตราการขยายตัว 10-15%
ส่วนผลการดำเนินงานของ KBS งวดไตรมาส 3/55 ทำกำไรสุทธิ 152.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111.23 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 450 ล้านบาท หรือ 35.3% จากปริมาณการส่งออกน้ำตาลให้ลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 56.6% หลังจากเกิดความล่าช้าในกระบวนการขนส่งน้ำตาล ในไตรมาสที่ 2 ทำให้การรับรู้รายได้เลื่อนมาอยู่ไตรมาสที่ 3 มากขึ้น ขณะที่งวด 9 เดือนบริษัทมีกำไรสุทธิ 702.78 ล้านบาท
จากตัวเลขผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือน ทำให้บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า รายได้และกำไรสุทธิของ KBS ในปี 55 จะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวมประมาณ 6,160 ล้านบาท และกำไรสุทธิมากกว่า 800 ล้านบาท แม้ว่าปริมาณการหีบอ้อยจะลดลงไปประมาณ 10% อยู่ที่ 2.5 ล้านตัน แต่บริษัทฯได้ปรับตัวโดยการเน้นไปผลิตน้ำตาลทรายขาวเพื่อการส่งออก และราคาขายต่างประเทศเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยในปัจจุบัน KBS มีสัดส่วนการส่งออก 70% และขายในประเทศ 30%
"ในไตรมาสที่ 3 เรามียอดส่งออกน้ำตาล ที่มีความล่าช้ามาจากไตรมาสที่ 2 ทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นมากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้เรายังมีน้ำตาลที่รอส่งมอบไปยังต่างประเทศในไตรมาส 4 อีก ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของ KBS ในปีนี้จะไม่ต่ำกว่าปีก่อน ดังนั้นเงินปันผลของเราในปีนี้ก็น่าจะไม่น้อยกว่าปีก่อนที่จ่ายปันผลไป 0.60 บาทต่อหุ้นด้วย โดยได้มีการจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.20 บาทต่อหุ้น และจะมีการจ่ายอีกครั้งในงวดปลายปีนี้"นายอิสสระ กล่าว