นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ FPI คาดว่า รายได้ในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากทั้งปีที่คาดว่าจะมีรายได้ทั้งหมด 1.5-1.6 พันล้านบาท และตั้งเป้าปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เพราะมีการลงทุนในเรื่องของแม่พิมพ์ใหม่เพิ่มเติม และมีการผลิตสินค้าในโมเดลใหม่ๆเข้ามาเพิ่มด้วย โดยบริษัทตั้งงบลงทุนในแม่พิมพ์ใหม่ในปีหน้าอีกประมาน 150 ล้านบาท และมองว่าในปี 56 จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(GP)ให้คงที่ ที่ 30 % ในปีหน้ามองว่าตลาดการทำสินค้าทดแทน(Replacement) ยังจะเติบโตได้อีกมาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ทำการส่งออกไปทั่วโลกประมาณ 85% และขายในประเทศ 15% และในตอนนี้ FPI เป็นรายเดียวที่ทำชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับค่าย LEXUS และในปี 56 ยังมองว่าตลาดจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ยังจะเติบอย่างมากและเติบโตได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งในตลาดนี้จะมีอัตรากำไรที่ 20-25% บริษัทจึงให้ความสำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรสูง และบริษัทยังให้ความสำคัญกับตลาด Accessories ซึ่งเป็นตลาดที่ให้อัตรากำไรสูง แต่ระยะเวลาในการขายสั้น