ส่วนปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5.3 พันล้านบาท และกำไรจะเติบโตราว 15% จาก 1.36 พันล้านบาทในปี 54 โดยไตรมาส 3/55 รายได้จากโฆษณาในรายการข่าวเพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสที่ผ่านมา และ 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการเพิ่มขึ้นของรายได้โฆษณาจากรายการที่ อสมท.ผลิตเองเพิ่มขึ้นด้วย
"ในไตรมาส 3 ถือว่าเราทำงานได้ดี จากช่วง 6 เดือนที่ทำไม่เข้าเป้า แต่ไตรมาส 3 เรามีผลประกอบการที่ดี รายได้รวมโต 13%" นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT กล่าว
ทั้งนี้ ในงวด 9 เดือน MCOT มีรายได้ 4.37 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.28 พันล้านบาท
นายอเนก กล่าวว่า ไตรมาส 4/55 คาดว่าเป็นไตรมาสที่มีรายได้และกำไรสูงสุด เพราะเป็นช่วงใข้จ่ายโฆษณามากที่สุด และปีนี้คาดว่า อสมท.จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ระดับ 18% ใกล้เคียงปีก่อน หรือเป็นอันดับที่ 3
นอกจากนี้ มีธุรกิจสื่อใหม่เพิ่มเติมในปีนี้ ทำให้รายได้ธุรกิจโทรทัศน์เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีรายได้เข้ามาประมาณ 300 ล้านบาท โดยมาจากรายได้ค่าเช่าและรายได้โฆษณาในโทรทัศน์ดาวเทียม จากช่องรายการที่ออกอากาศผ่าน MCOT Network โดยเป็นดาวเทียมระบบ C-Band จำนวน 15 ช่อง ซึ่ง อสมท.ได้ผลิตรายการเอง 2 ช่อง คือ ช่อง MCOT1 และ MCOT world และรับจ้างดำเนินการช่อง Bangkok City Channel และทางทรูวิชั่นส์ เช่าจำนวน 5 ช่อง และระบบ Ku-band ทาง GMM GRAMMY เช่าจำนวน 13 ช่อง
นายเอนก กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทเตรียมจะเข้าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตัล 5 ช่อง ซึ่งแบ่งเป็นช่องรายการธุรกิจ 3 ช่อง ช่องรายการ HD 1 ช่อง และช่องทีวีสาธารณะ 1 ช่อง ซึ่งจะเน้นทำรายการศึกษา
บริษัทคาดว่าการเข้าประมูลใบอนุญาตและงบลงทุนทำช่องรายการราว 500 ล้านบาทต่อช่อง รวม 2.5 พันล้านบาท และลงทุนด้านโครงข่าย 2,800 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวไม่ได้ลงทุนครั้งเดียว และจะหาพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนด้วย ขณะที่บริษัทได้เตรียมวงเงินกู้กับธนาคารกรุงไทยและ ธนาคารกสิกรไทย ขณะที่บริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 4-5 พันล้านบาท และบริษัทเตรียมอัพเกรดคลื่นวิทยุ 5-6 คลื่น วงเงิน 400-500 ล้านบาท ส่วนงบลงทุนปกติในปีหน้าจำนวน 300-400 ล้านบาท
นายอเนก กล่าวอีกว่า บริษัทหารายได้เพิ่มจากการเพิ่มกิจกรรมประชาสัมพันธ์กับภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ คาดว่าจะมีรายได้กว่า 500 ล้านบาท และบริษัทจะพัฒนาที่ดินที่มีอยู่ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดโดยจะจัดตั้งสำนักบริหารสินทรัพย์เริ่มดำเนินการในปีหน้า ซึ่งที่ดินแปลงใหญ่ที่มีแผนจะพัฒนาโครงการ 3 แห่ง ได้แก่ ที่ดินพระราม 9 จำนวน 50 ไร่ ที่ดินย่านบางไผ่ 58 ไร่ ที่ดินย่านหนองแขม 40 ไร่ ส่วนที่ดินในต่างจังหวัด เป็นพื้นที่ที่เคยเป็นสถานีวิทยุมีอยู่หลายแห่งอยู่ระหว่างการรวบรวม
ด้านนายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT กล่าวว่า การทำช่องรายการทีวีดิจิตัล 5 ช่องคาดว่าจะหาพันธมิตรร่วมทำ content และบริษัทจะหาพันธมิตรในการทำโครงข่าย ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจากับ ไทยพีบีเอส กรมประชาสัมพันธ์ ทีโอที ซึ่งจะทำให้ อสมท. สามารถแพร่ผ่านได้ทั่วประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งปัจจุบันมีบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ห่างไกลไม่สามารถรับชมได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปการหาพันธมิตรอย่างเร็วในไตรมาส 1/56 หรืออย่างช้ากลางปี 56 เพื่อจะขอรับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ในปีหน้า