นายปิยุช กุปต้า กรรมการผู้จัดการใหญ่ TSTH คาดผลประกอบการงวดปี 55/56 จะขาดทุนลดลงจากงวดปี 54/55 ที่ขาดทุน 1,500 ล้านบาท ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยครึ่งปีแรกขาดทุน 500 ล้านบาท แต่แนวโน้มครึ่งหลังคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะเป็นช่วงฤดูการขายหลังผ่านหน้าฝนไปแล้ว และเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอยของโปรเจ็คต์ภาครัฐ อีกทั้งปีนี้ไม่ได้รับกระทบน้ำท่วม
ประกอบกับบริษัทเน้นขายสินค้าเหล็ก high end เช่น เหล็กเกรดพิเศษ ต้านทางแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว เหล็กขึ้นรูป และลดต้นทุน ลด cost ปรับปรุงการผลิตต่างๆให้ดีขึ้นและบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบเพื่อรักษาสเปรด ซึ่งก็จะช่วยทำให้ผลประกอบการดีขึ้น
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายที่ 1.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1.12 ล้านตัน หรือ 6% แบ่งเป็นสินค้าไฮเอนด์มากกว่า 30% หรือราว 3.2 แสนตัน ที่เหลือเป็นเหล็กลวด โดยครึ่งปีแรกมีปริมาณขายรวม 5.58 แสนตัน เป็นเหล็กไฮเอนด์ 1.59 แสนตัน
บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเหล็กไฮเอนด์ใน 1-2 ปีข้างหน้าเป็น 40% เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลบวกต่อรายได้ของบริษัท ขณะที่เหล็กลวดยังได้รับผลกระทบจากเหล็กจีนที่เข้ามาดั้มพ์ตลาด ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถขายได้ในราคาสูงเพราะต้องลดราคาขายสู้กับสินค้าจีน จึงพยามลดสัดส่วนการขายเหล็กลวดลง และเพิ่มสินค้าเหล็กเกรดพิเศษมากขึ้น
"ครึ่งหลังมุ่งเน้นแผนฟื้นฟูผลประกอบการของบริษัทให้ดีขึ้น โดยหวังผลกำไรก่อนภาษีเป็นบวก แม้อยู่ในภาวะที่ยากลำบาก โดยจะมุ่งรักษา EBITDA และรายได้ที่เป็นตัวเงินให้เป็นบวกต่อเนื่อง โดยรักษาการขายสินค้าไฮเอนด์ให้มากกว่า 30% เน้นตลาดเหล็กเส้นขึ้นรูป จึงเชื่อว่าจะพลิกธุรกิจครึ่งหลังดีขึ้น โดยคาดปริมาณขายจะดีขึ้นเพราะไม่มีน้ำท่วมเหมือนปีก่อนแต่ราคาขายอาจตก จึงบอกไม่ได้ว่ารายได้ที่เป็นเงินบาทจะดีกว่างวดเดียวกันปีก่อนหรือไม่ เพราะการดั้มพ์ราคาแรงกว่าเดิม"นายปิยุช กล่าว