สำหรับปี 56 บริษัทตั้งงบลงทุนในการซ่อมบำรุงและพัฒนาเครื่องจักรที่ประมาณ 600-700 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าอีก 3-5 ปีข้างหน้ารายได้จะเติบโตราว 10% ต่อปี และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 30% หลังจากมีความคืบหน้าของโรงงานอิฐมวลเบามูลค่าลงทุน 580 ล้านบาท ซึ่งได้ทำการชำระไปแล้ว 350 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ช่วงไตรมาส 2/56 ซึ่งจะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มที่ประมาน 300-500 ล้านบาท/ปีตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า
นายสาธิต กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/55 มีความคึกคักมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 3/55 โดยมีปัจจัยหนุนจากผู้ประกอบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้เร่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในตลาดต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ รองรับความต้องการซื้อของลูกค้าที่คาดว่าจะมีมากขึ้น ขณะเดียวกันร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายเล็กได้คลายความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้กลับมาสั่งซื้อเพื่อสต๊อกสินค้ารองรับโอกาสการขายที่มากขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงปลายปีนี้ บริษัทฯ ได้ตอกย้ำจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตราเพชร ผ่านเครือข่ายช่องทางร้านค้าวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราเพชรกว่า 6,000 รายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศเพื่อผลักดันสินค้าตราเพชรเข้าสู่ช่องทางขายต่างๆ มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าไปช่วยปรับโฉมร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยการเพิ่มชั้นวางสินค้าและจัดเรียงสินค้าให้มีความโดดเด่น ยกระดับสู่การเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่มากขึ้น รองรับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่นิยมเลือกซื้อสินค้าร้านที่มีการตกแต่งหน้าร้านที่มีความทันสมัย
“ไตรมาสสุดท้ายของปี เราเห็นสัญญาณที่ดีของการขยายตัวของสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากกำลังซื้อของลูกค้าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้ร้านค้าเริ่มเพิ่มปริมาณสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น หลังจากคลายความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งตราเพชร มีความพร้อมในด้านการผลิตสินค้า รวมถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีให้ลูกค้าได้เลือกที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นายสาธิต กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 55 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,980.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 2,830.21 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 443.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.28% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 375.02 ล้านบาท
และผลประกอบการไตรมาส 3/55 บริษัทฯ มีรายได้รวม 917.80 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 110.13 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ เพราะถือเป็นช่วงฤดูฝนที่การก่อสร้างอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะเดียวกันร้านค้าวัสดุก่อสร้างมีความกังวลต่อปัจจัยเศรษฐกิจ รวมถึงยังคงห่วงผลกระทบจากน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง จึงลดปริมาณสต๊อกสินค้าให้เพียงพอต่อการขายเท่านั้น