(เพิ่มเติม) SPALI เปิดตัวคอนโดฯ“ศุภาลัย ไลท์ สาทร-เจริญราษฎร์"มูลค่า 2 พันลบ.ในพ.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 16, 2012 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศุภาลัย (SPALI ) เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อว่า “ศุภาลัย ไลท์ สาทร-เจริญราษฎร์" บนพื้นที่โครงการรวมทั้งหมดประมาณกว่า 4 ไร่กว่า คิดเป็นมูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท

โครงการศุภาลัย ไลท์ สาทร-เจริญราษฎร์ เป็นคอนโดมิเนียมหรู สูง 26 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 571 ยูนิต แบ่งเป็นห้องพักอาศัย 565 ยูนิต, ร้านค้า 6 ยูนิต โดยห้องพักอาศัยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.50 — 83.50 ตร.ม. แบบ 1 - 2 ห้องนอน ในราคาเริ่มเพียง 2 ล้านต้นๆ โดยมีจุดเด่นในเรื่องทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ บนถนนเจริญราษฎร์ สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว เพียง 700 เมตร จากจุดขึ้น-ลงทางด่วน (ด่านจันทน์) ใกล้ถนนสาทร เพียง 1.8 กม. และรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ เพียง 2 กม. แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความครบครัน อาทิ เซ็นทรัล พลาซา พระราม 3, เทสโก้ โลตัส พระราม 3, Asiatique The Riverfront, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์, โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ เป็นต้น

"ลูกค้าเก่าสามารถจองได้ล่วงหน้าก่อนกำหนด 1 สัปดาห์ ...ตั้งเป้ายอดจองไว้ประมาณ 60% จากวันที่เปิดให้จอง" นายอธิป กล่าว

ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/55 นี้ บริษัทเตรียมตัวเปิดอีก 4 โครงการ จากทั้งหมด 7 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ โดยได้ทยอยเปิดไปแล้ว 3 โครงการ

สำหรับภาพรวมปีนี้ทั้งปีมีโครงการใหม่ทั้งหมด 17 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท โดย 10 เดือนมียอดขายแล้ว 1.4 หมื่นล้านบาท

นายอธิป กล่าวต่อว่า ปี 56 คาดว่าจะขยายโครงการเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 17 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงในต่างหวัด เช่น สุราษฎร์ธานี ระยอง และอุดรธานี ซึ่งจะแบ่งเป็นโครงการแนวราบประมาณ 12 โครงการ และคอนโดฯ อีกประมาณ 5 โครงการ โดยมองว่า คอนโดฯ ในปีหน้ายังสามารถโตได้ต่อเนื่อง และแนวราบน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น เพราะปีนี้ไม่มีปัญหาน้ำท่วม และปีหน้ามีการเปิดรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มเติม โดยบริเวณรัตนาธิเบศน์-บางบัวทอง จะมีคอนโดฯ เกิดขึ้นในช่วงต้นรถไฟฟ้า และแนวราบจะเกิดขึ้นช่วงปลายรถไฟฟ้า ส่วนบริเวณบางแค-เพชรเกษม จะมีคอนโดฯ เกิดขึ้นในช่วงปลายรถไฟฟ้า และคาดว่าคอนโดฯยังเป็นตัวเลือกหลักในการตัดสินใจซื้อของลูกค้ามากกว่าโครงการแนวราบ เนื่องจากว่าทำเลของคอนโดฯ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สะดวกต่อการเดินทาง และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก

"มั่นใจว่าว่า ไม่เกิดวิกฤตฟองสบู่ เพราะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน ผู้ที่เข้ามาแข่งขันเป็นธุรกิจระดับกลางและใหญ่ ธุรกิจรายเล็กไม่ค่อยมี เนื่องจากปัจจุบันมูลค่าที่ดินสูงขึ้น ธุรกิจรายเล็กน่าจะมีเงินทุนไม่เพียงพอในการซื้อที่ดิน และธนาคารมีความเข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ธุรกิจรายกลาง-ใหญ่มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากกว่าและปัจจุบันมีความต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์ยังมีมากกว่าจำนวนธุรกิจที่เข้ามาแข่งขัน" นายอธิปกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ