ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 45.93 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 12,588.31 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.55 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,359.88 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 16.19 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 2,853.13 จุด
แต่อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ดัชนีปิดต่างก็ปิดปรับตัวลงในสัปห์ดานี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง
ดัชนี CBOE Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนและความวิตกกังวลในตลาด ปิดที่ระดับเกือบ 18 06f
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำในรัฐสภาเป็นครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้งเมื่อคืนนี้ เพื่อหารือวิธีแก้ปัญหาภาวะหน้าผาทางการคลัง
นายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกพรรครีพับลิกันให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า เขาเชื่อว่ากรอบเวลาในการเจรจาเมื่อคืนนี้มีความสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของนายโอบามาในเรื่องวิธีการที่สมดุล พร้อมกับเสริมว่า เขาเชื่อว่าการทำงานร่วมกันระหว่างสองพรรคสามารถช่วยหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้
ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังได้รับข่าวดี แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์และยังคงใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับความคืบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นภาษีและยังลังเลที่จะตัดสินใจลงทุนเป็นจำนวนมาก
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐหดตัวลง 0.4% ในเดือนต.ค. เนื่องจากพายุแซนดี้ที่พัดถล่มฝั่งตะวันออกของสหรัฐทำให้กิจกรรมการผลิตซบเซา สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะขยายตัว 0.2%
นายสตีเฟน เจ. กุยฟอยล์ นักเศรษฐศาสตร์จากเมอริเดียน อีควิตี้ พาร์ทเนอร์ส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การปรับตัวลงของผลผลิตอุตสาหกรรมไม่ได้เกิดจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน
“อย่าโทษข้อมูลที่อ่อนแอว่าเกิดจากพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้" เขากล่าว “ความจริงก็คือเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบประมาณที่กำลังจะมีขึ้น"
ทั้งนี้ หุ้นส่วนใหญ่ที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ต่างก็ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นำโดยหุ้นกกลุ่มสาธารณูปโภค
หุ้นวอลมาร์ท ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลก ลดลง 1% หลังเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยเคนนี โพคารี เทรดเดอร์อาวุโสในตลาดหุ้นนิวยิร์กกล่าวว่า “การปรับตัวลงของวอลมาร์ทบ่งชี้ว่าตลาดผู้บริโภคยังคงมีภาวะที่ย่ำแย่"
หุ้นแก็ป ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีสำหรับภูมิภาคอเมริกาเหนือ
หุ้นเดลล์ร่วงลง 7.3% หลังจากบริษัทคาดว่ารายได้ไตรมาส 4 อาจแตะที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์เล็กน้อย
หุ้นเซียร์ โฮลดิ้งส์ คอร์ป ร่วง 19% หลังบริษัทมียอดขาดทุนสูงกว่าคาดการณ์และมีผลประกอบการที่ขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 23 ติดต่อกัน