ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก45.93จุดรับข่าวดีเรื่องหน้าผาการคลัง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 17, 2012 07:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวดีในการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ของรัฐสภาสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 45.93 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 12,588.31 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.55 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 1,359.88 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 16.19 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 2,853.13 จุด

แต่อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ดัชนีปิดต่างก็ปิดปรับตัวลงในสัปห์ดานี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง

ดัชนี CBOE Volatility Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนและความวิตกกังวลในตลาด ปิดที่ระดับเกือบ 18 06f

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำในรัฐสภาเป็นครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้งเมื่อคืนนี้ เพื่อหารือวิธีแก้ปัญหาภาวะหน้าผาทางการคลัง

นายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกพรรครีพับลิกันให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า เขาเชื่อว่ากรอบเวลาในการเจรจาเมื่อคืนนี้มีความสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของนายโอบามาในเรื่องวิธีการที่สมดุล พร้อมกับเสริมว่า เขาเชื่อว่าการทำงานร่วมกันระหว่างสองพรรคสามารถช่วยหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้

ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังได้รับข่าวดี แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์และยังคงใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับความคืบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นภาษีและยังลังเลที่จะตัดสินใจลงทุนเป็นจำนวนมาก

ด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐหดตัวลง 0.4% ในเดือนต.ค. เนื่องจากพายุแซนดี้ที่พัดถล่มฝั่งตะวันออกของสหรัฐทำให้กิจกรรมการผลิตซบเซา สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะขยายตัว 0.2%

นายสตีเฟน เจ. กุยฟอยล์ นักเศรษฐศาสตร์จากเมอริเดียน อีควิตี้ พาร์ทเนอร์ส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การปรับตัวลงของผลผลิตอุตสาหกรรมไม่ได้เกิดจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน

“อย่าโทษข้อมูลที่อ่อนแอว่าเกิดจากพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้" เขากล่าว “ความจริงก็คือเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบประมาณที่กำลังจะมีขึ้น"

ทั้งนี้ หุ้นส่วนใหญ่ที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ต่างก็ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นำโดยหุ้นกกลุ่มสาธารณูปโภค

หุ้นวอลมาร์ท ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลก ลดลง 1% หลังเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ โดยเคนนี โพคารี เทรดเดอร์อาวุโสในตลาดหุ้นนิวยิร์กกล่าวว่า “การปรับตัวลงของวอลมาร์ทบ่งชี้ว่าตลาดผู้บริโภคยังคงมีภาวะที่ย่ำแย่"

หุ้นแก็ป ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีสำหรับภูมิภาคอเมริกาเหนือ

หุ้นเดลล์ร่วงลง 7.3% หลังจากบริษัทคาดว่ารายได้ไตรมาส 4 อาจแตะที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์เล็กน้อย

หุ้นเซียร์ โฮลดิ้งส์ คอร์ป ร่วง 19% หลังบริษัทมียอดขาดทุนสูงกว่าคาดการณ์และมีผลประกอบการที่ขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 23 ติดต่อกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ