และราคาเสนอขายสุดท้ายจะประกาศในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ผ่าน 3 ช่องทางหลักได้แก่ 1) สำนักงานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) หรือผ่านเว็บไซต์ www.ktam.co.th หรือ 2) เว็บไซต์ของ TLGF ที่ www.tlgt-fund.com หรือ 3) สำนักงานใหญ่และสาขาของธนาคารกรุงไทย หรือธนาคาร CIMB Thai (CIMBT) หรือสามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของ KTAM ที่ โทร. 02-670-4900 หรือฮอตไลน์ธนาคารกรุงไทย (1551) หรือธนาคาร CIMBT 02-626-7777เพื่อขอรับข้อมูลเกี่ยวกับราคาและสิทธิจองซื้อ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย กล่าวว่า หลังจากที่ ก.ล.ต. ได้อนุมัติไฟล์ลิ่งแล้ว กองทุน TLGF จะดำเนินการเปิดจองซื้อหน่วยลงทุนใหม่ ซึ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมครั้งนี้จะทำให้กองทุนรวมฯ มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเมื่อพิจารณาถึงผลประกอบการที่ดี ตลอดจนสินทรัพย์คุณภาพสูงที่เรามีอยู่ และกระบวนการจองซื้อและจัดสรรหน่วยลงทุนที่โปร่งใสและยุติธรรม เราเชื่อมั่นว่าแผนการระดมทุนเพิ่มในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ
TLGF จะออกหน่วยลงทุนใหม่ไม่เกิน 650 ล้านหน่วย เพื่อระดมทุนไม่เกิน 7,545 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปลงทุนในศูนย์การค้าคุณภาพสูงของเทสโก้ โลตัส เพิ่มอีก 5 แห่ง ทั้งนี้กองทุนรวมฯ จะมีอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 22 แห่ง หลังจากการเพิ่มทุน และจะทำให้ TLGF เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
TLGF จะเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนปัจจุบันตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน โดยผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิในการจองซื้อหน่วยลงทุนใหม่จะต้องมีชื่อในสมุดจดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนภายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2555 ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนปัจจุบันสามารถจองซื้อเกินสิทธิได้ ส่วนเทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ที่สุด จะจองซื้อหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ตามสิทธิ เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนร้อยละ 25
การจัดสรรหน่วยลงทุนในรอบแรก จะจัดสรรตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม และหากมีหน่วยลงทุนเหลือ จึงจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่จองซื้อเกินสิทธิจนกว่าจะครบตามความต้องการหรือจนกว่าหน่วยลงทุนจะหมด
ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิในการจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนสามารถจองซื้อได้ในเวลาทำการระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2555 และตั้งแต่เปิดทำการจนกระทั่งเวลา 12.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 ได้ที่สำนักงานของ KTAM และสำนักงานใหญ่และทุกสาขาทั่วประเทศของ ธนาคารกรุงไทย และ CIMBT
TLGF จะนำรายได้จากการระดมทุนไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นศูนย์การค้าของเทสโก้ โลตัส อีก 5 แห่ง ได้แก่ สาขาภูเก็ต สาขาศาลายา สาขานครศรีธรรมราช สาขารังสิต-นครนายก และสาขาบางปู ซึ่งจะทำให้ TLGF มีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเกือบ 80,000 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 34% โดย TLGF จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ศูนย์การค้าใหม่ 3 แห่ง ซึ่งจะทำให้สัดส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนรวมฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น 75% ของทรัพย์สินทั้งหมด
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า หลังจากการเพิ่มทุน TLGF จะกลายเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าตลาดหรือมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม อสังหาริมทรัพย์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่กองทุนรวมฯ ในทันที อัตราการเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 5 แห่งสูงถึง 99.7% โดยมีผู้เช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะช่วยสร้างรายได้จากค่าเช่าให้กับ TLGF การเพิ่มเติมอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงทั้ง 5 แห่งในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเทสโก้ โลตัสที่จะสนับสนุนการเติบโตของ TLGF ต่อไป