ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 207.65 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 12,795.96 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 27.01 จุด หรือ 1.99% ปิดที่ 1,386.89 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 62.94 จุด หรือ 2.21% ปิดที่ 2,916.07 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากประธานาะบดีบารัค โอบามาได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรส เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หรือภาวะที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติตามกำหนดในช่วงปลายปีนี้
"ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถรับมือกับสถานการณ์การคลังได้" โอบามากล่าวในระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อวานนี้ โดยก่อนที่จะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ประธานาธิบดีโอบามาได้เข้าประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำในรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้ง เพื่อหารือวิธีแก้ปัญหาภาวะหน้าผาทางการคลัง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 4.79 ล้านยูนิตต่อปี ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากตลาดแรงงานที่ส่งสัญญาการฟื้นตัวได้ช่วยหนุนตลาดที่อยู่อาศัยให้คึกคักขึ้น
ส่วนราคากลางของบ้านมือสองอยู่ที่ระดับ 178,600 ดอลลาร์ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่สต็อกบ้านมือสองปรับตัวลดลง 1.4% มาอยู่ที่ระดับ 2.14 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 2545 หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.5%
ส่วนหุ้นซิสโก้ ซีสเต็มส์ บวก 1.7% หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 7.2% หุ้นอเมซอน ปรับตัวขึ้น 0.8% และหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาต ก่อสร้างเดือนต.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะอยู่ที่ 0.840 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. ลดลงจาก 0.872 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.