ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.2% ปิดที่ 268.58 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3439.58 จุด บวก 98.06 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7123.84 จุด บวก 173.31 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5737.66 จุด บวก 132.07 จุด
ตลดาหุ้นยุโรปทะยานขึ้นเพราะได้แรงหนุนหลังจากโอบามาได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาพคองเกรส เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) หรือภาวะที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติตามกำหนดในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ประธานาธิบดีโอบามาได้เข้าประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำในรัฐสภาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกภายหลังการเลือกตั้ง เพื่อหารือวิธีแก้ปัญหาภาวะหน้าผาทางการคลัง
นายจอห์น โบห์เนอร์ โฆษกพรรครีพับลิกันให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า เขาเชื่อว่ากรอบเวลาในการเจรจามีความสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของนายโอบามาในเรื่องวิธีการที่สมดุล พร้อมกับเสริมว่า เขาเชื่อว่าการทำงานร่วมกันระหว่างสองพรรคสามารถช่วยหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการคลังได้
หุ้นธนาคารเอชเอสบีซีพุ่งขึ้น 3.8% ขณะที่หุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 3.6% ส่วนหุ้นไอเอ็นจีพุ่งขึ้น 3.8% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ทะยานขึ้น 6.6%
หุ้นโนเกียพุ่งขึ้น 9% ขณะที่หุ้นลอนมินในกลุ่มเหมืองแร่ ทะยานขึ้น 9.3%
นอกเหนือจากการคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังสหรัฐแล้ว ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 4.79 ล้านยูนิตต่อปี ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากตลาดแรงงานที่ส่งสัญญาการฟื้นตัวได้ช่วยหนุนตลาดที่อยู่อาศัยให้คึกคักขึ้น