สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB236A (อายุ 10.6 ปี) LB176A (อายุ 4.8 ปี) และ LB21DA (อายุ 9.1 ปี) มีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 14,149 ล้านบาท 12,128 ล้านบาท และ 9,197 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB12D04A (อายุ 14 วัน) CB13214B (อายุ 91 วัน) และ BOT157A (อายุ 3 ปี) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 45,011 ล้านบาท 20,785 ล้านบาท และ 20,498 ล้านบาท ตามลำดับ
ทางด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A (AAA)) มูลค่าการซื้อขาย 824 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท บ้านปู จำกัด มหาชน (BANPU225A (AA-)) มูลค่าการซื้อขาย 694 ล้านบาท และ หุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI13OA (A+)) มูลค่าการซื้อขาย 617 ล้านบาท ตามลำดับ
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งเส้น ในช่วง +1 ถึง +11 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับ Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ ที่จะมีผลโดยตรงต่อความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งความกังวลดังกล่าวมีผลทำให้นักลงทุนบางส่วนปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนโดยโยกเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและตราสารหนี้ระยะยาว เข้าสู่สินทรัพย์ประเภท Safe Haven อย่างเช่นตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้น เพื่อรอความชัดเจนของสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff ที่กำลังจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้แล้ว อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากปัจจัยด้านอุปทาน (Supply) ของพันธบัตรรัฐบาล ที่กระทรวงการคลังออกประมูลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในปริมาณที่ค่อนข้างสูง (23,000 ล้านบาท) ปริมาณการออกพันธบัตรใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลทำให้อัตราผลตอบแทนขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาบ้างด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภทรวมกัน (ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) 5,769 ล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะการซื้อขายในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุคงเหลือมากกว่า 1 ปี) จะพบว่าเป็นการซื้อสุทธิถึง 12,895 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อย (Individual) มียอดขายสุทธิ 49 ล้านบาท