สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าขยับขึ้น 8.88 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 9,162.08 จุด
ในช่วงเช้านั้น ดัชนีนิกเกอิดีดตัวขึ้น 47 จุดและเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 9,200 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. หลังจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 207.65 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 12,795.96 จุดเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถตกลงเรื่องงบประมาณกับสภาคองเกรส ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญภาวะหน้าผาการคลังได้
แต่ดัชนีนิกเกอิอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็ว และแกว่างตัวแคบๆใกล้เคียงกับระดับปิดของวานนี้ตลอดช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้น 5.7% เมื่อวานนี้ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า หากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ทางพรรคก็อาจจะผลักดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
ส่วนในการประชุมวันนี้ บีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.10% ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับคงขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์เอาไว้ที่ระดับปัจจุบัน 91 ล้านล้านเยน หลังจากที่ได้ขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 11 ล้านเยนในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาดูการแถลงข่าวของนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสายวันนี้
หุ้นซอฟท์แบงก์ พุ่งขึ้น 1.6% หุ้น KDDI ดีดตัวขึ้น 1%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มส่งออกหลายตัวร่วงลงจากแรงขายทำกำไร โดยหุ้นฮอนด้าร่วงลง 0.7% หุ้นนินเทนโด ดิ่งลง 2.6% และหุ้นแคนนอน ปรับตัวลง 0.7%