สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลง 10.56 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 9,142.64 จุด
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเบ็ดเตล็ด กลุ่มธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มขนส่งทางทะเล กลุ่มผู้จัดจำหน่ายน้ำมัน และกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม ปรับตัวขึ้นในวันนี้
ในช่วงเช้านั้น ดัชนีนิกเกอิดีดตัวขึ้น 47 จุดและเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 9,200 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. หลังจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 207.65 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 12,795.96 จุดเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถตกลงเรื่องงบประมาณกับสภาคองเกรส ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญภาวะหน้าผาการคลังได้
แต่ดัชนีนิกเกอิอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็ว และแกว่างตัวแคบๆใกล้เคียงกับระดับปิดของวานนี้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้น 5.7% เมื่อวานนี้ หลังจากมีการคาดการณ์ว่า หากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ ทางพรรคก็อาจจะผลักดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
ส่วนในการประชุมวันนี้ บีโอเจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.10% ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับคงขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์เอาไว้ที่ระดับปัจจุบัน 91 ล้านล้านเยน หลังจากที่ได้ขยายวงเงินซื้อสินทรัพย์อีก 11 ล้านเยนในการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาดูการแถลงข่าวของนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจ ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นโตเกียวปิดทำการในวันนี้
หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ ร่วงลง 1% หุ้นแคนนอน ปรับตัวลง 0.9% และหุ้น TDK ร่วงลง 1%
ส่วนหุ้นนินเทนโด้ ดิ่งลง 3.7%
หุ้นที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับบริษัท แอปเปิล อิงค์ ดีดตัวขึ้นหลังจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นซอฟท์แบงก์ ดีดขึ้น 1.9% และหุ้น KDDI ปรับตัวขึ้น 0.7%