แต่หากมองปัจจัยระยะยาวควรให้ความสำคัญกับเรื่องที่ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจทั้งนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศมาเยือนไทยในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แสดงให้เห็นว่าไทยยังมีความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจ ดังนั้น หากใครที่ยังไม่เคยลงทุนในไทยหรือนักธุรกิจที่ยังไม่ได้เข้ามาก็คงจะเริ่มพิจารณาการลงทุนในประเทศไทย
"การมาเยือนของ 2 ผู้นำประเทศ มีนัยต่อบรรยากาศการลงทุน แต่ก็เป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เป็นการกระตุ้นให้โลกเริ่มเห็นแล้วคงมีกิจกรรมมากขึ้นแน่นอน"นายจรัมพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าภาวะการลงทุนช่วงที่เหลือของปีนี้ยังน่าจะผันผวน โดยเฉพาะจากปัจจัยต่างประเทศ โดยจะต้องยอมรับว่าตลาดโลกยังมีเหตุการณ์สำคัญที่จะเข้ามากระทบกับการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นได้เสมอ อย่างวานนี้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมาก จากปัจจัยทิศทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสรหัฐ แต่หากเกิดความไม่แน่นอนขึ้นก็จะทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไร และขณะเดียวกันก็จะมีนักลงทุนที่เข้ามาซื้อคืนเพื่อปรับต้นทุน เพราะฉะนั้นนักลงทุนจะต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน