การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายได้อ่อนตัวลงมาอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,291.29 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,273.82 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 203 หลักทรัพย์ ลดลง 334 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายปรับตัวลงมาก คาดว่าจะเป็นผลจากที่มีข่าวออกมาว่า ส.ว.จะยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค)ในการประมูล 3G ทำให้มีโจทก์เพิ่มขึ้น และตลาดยุโรปก็เปิดในช่วงบ่ายปรับตัวลง ภายหลังจากที่"มูดี้ส์"ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศส
ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง และอ่อนตัวมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ
ทั้งนี้ มองว่าตลาดบ้านเราเวลานี้ถือว่าไม่ถูก และนักลงทุนต่างชาติก็ยังขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายอยู่ นอกจากนี้ปัจจัยจากนอกประเทศก็ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ในสหรัฐฯ และเศรษฐกิจในยุโรปก็ยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งตลาดฯยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาที่จะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อได้ ทำให้เห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดของตลาดฯมีอยู่น้อย และเมื่อวอลุ่มเทรดน้อยจึงดันตลาดฯให้ปรับตัวขึ้นไปยาก
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 พ.ย.)นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงะแกว่งตัว-อิงขาลง เพราะตราบใดที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ และนักลงทุนต่างชาติยังคงขาย มีเพียงแค่กองทุนที่ซื้อเพราะประโยชน์ทางภาษี พร้อมให้แนวรับ 1,270-1,250 จุด แนวต้าน 1,290-1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,538.31 ล้านบาท ปิดที่ 310.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,059.30 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,028.93 ล้านบาท ปิดที่ 191.50 บาท ลดลง 6.50 บาท
BAY มูลค่าการซื้อขาย 902.12 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 869.60 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 0.25 บาท