ส่วนในปีหน้า บริษัทตั้งเป้า EBITDA สูงขึ้นแตะ 1 หมื่นล้านบาท จากการเพิ่มกำลังการกลั่นเป็น 1.1 แสนบาร์เรล/วัน จากที่ปีนี้มีกำลังการกลั่น 7.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และในปีหน้าจะไม่มีการปิดโรงกลั่นเพื่อซ่อมบำรุงประจำปี เพราะได้ดำเนินการไปในปีนี้แล้วในช่วงที่ปิดซ่อมแซมหน่วยกลั่นที่ถูกเพลิงไหม้
นายพิเชษฐ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ว่าจะสามารถรับรู้รายได้เฟส 1 เต็มปีในช่วงปี 56 ซึ่งมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 38 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะสร้างเฟส 2 แล้วเสร็จในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.56 กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า 50 เมกะวัตต์ และจะรับรู้รายได้เกือบเต็มปี และในโครงการเฟส 3 อยู่ระหว่างการหาพื้นที่อยู่ก่อสร้างอยู่ ซึ่งรายได้จากโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะส่งผลให้ EBITDA ของ BCP เพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต
สำหรับการลงทุนตั้งโรงกลั่นแห่งใหม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 56 โดยหากตัดสินใจแล้วก็คาดว่าจะต้องใช้เวลา 8 ปีจึงจะสร้างแล้วเสร็จ