ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 7.45 จุดหลังเบอร์นันเก้กังวลการคลังสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 21, 2012 06:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐเตือนว่า เฟดยังไม่มีเครื่องมือที่จะรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากภาวะหน้าผาการคลัง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 7.45 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 12,788.51 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.92 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 1,387.81 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 0.61 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 2,916.68 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากเบอร์นันเก้กล่าวว่า เฟดยังไม่มีเครื่องมือรองรับผลกระทบจากภาวะหน้าผาการคลัง และยังได้เตือนถึงผลกระทบที่รุนแรงอันเนื่องมาจากภาวะหน้าผาการคลังด้วย

"การที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการลดการใช้จ่ายและปรับขึ้นภาษีโดยอัตโนมัติตามกำหนดในช่วงปลายปีนี้จะส่งผลให้เกิดภาวะหน้าผาการคลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีด้วยมูลค่าที่สูงในเวลาเดียวกัน จะฉุดรั้งเศรษฐกิจสหรัฐให้เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง" เบอร์นันเก้กล่าว

ฟิทช์ เรทติ้งส์เตือนว่า ภาวะหน้าผาทางการคลังในสหรัฐอาจะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอยครั้งที่ 2 ขณะที่การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลดลง 2% มาอยู่ที่ 0.4% และอัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้นใกล้ 10% ซึ่งภาวการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความต้องการสินทรัพย์ด้านการคมนาคมของสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส ลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa1 จากระดับสูงสุดที่ Aaa เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยูโรโซน พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส เป็น เชิงลบ ซึ่งบ่งชี้ว่ามูดีส์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีกในวันข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.6% แตะ 894,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.ค.2551 หรือสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี เทียบกับระดับ 863,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งมีการปรับลงจากเดิมที่ 872,000 ยูนิต โดยข้อมูลล่าสุดนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐที่เคยประสบปัญหากำลังปรับตัวดีขึ้น

หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด ร่วงลง 12% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดวอลล์สตรีท ขณะที่หุ้นเบสท์บาย ร่วงลง 13% หุ้นอินเทล คอร์ป ร่วงลง 3.6%

ส่วนหุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน (RIM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี ดีดตัวขึ้น 1.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจฟเฟอร์รี แอนด์ โค คาดว่า RIM จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะธุรกิจถดถอยได้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐในวันนี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย จากนั้นในเวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย จะมีการเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค.จากคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ