นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายธุรกิจ เนื่องจากโครงการตึกคู่ อีควิน๊อกซ์ พหล-วิภา เป็นโครงการ Mix Use ที่มีทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และ คอมมูนิตี้ มอลล์ การที่บริษัทฯ นำมาบริหารเอง เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการบริหารงาน
ขณะเดียวกันแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มเปลี่ยนไป โครงการใหญ่จำเป็นต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับลูกบ้าน เพราะแนวโน้มของชีวิตคนเมืองไม่อยากเดินทาง มีเวลาที่จำกัด ดังนั้น แนวโน้มที่จะมีโครงการในลักษณะ Mix Use มีความเป็นไปได้สูงในปี 56 รวมทั้งราคาที่ดินซึ่งอยู่บริเวณแนวรถไฟฟ้า ก็มีราคาสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มที่จะมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะ Mix use ซึ่งห่างจากรถไฟฟ้าไม่ไกลจะมีมากขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจด้านการให้เช่าพื้นที่ เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มที่ให้ผลตอบแทนที่ดี และเป็นธุรกิจที่มีรายได้เข้ามาแน่นอน
ปัจจุบัน โครงการอีควิน็อกซ์ พหล-วิภา เป็นโครงการแรกที่จะมีการให้บริการด้านการให้เช่าพื้นที่ โดยบริษัทตั้งบริษัทลูกขึ้นมา ชื่อ MJP Development เป็นผู้พัฒนาโครงการสำหรับโครงการในอนาคตของ MJD ซึ่งจะเป็นโครงการด้านสำนักงานและคอมมูนิตี้ มอลล์ จะมีแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
“ขณะนี้ความคืบหน้าของโครงการ อีควิน็อกซ์ พหล-วิภานั้น โครงการสร้างแล้วเสร็จไปกว่า 50% โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 56 โดยยอดขายในส่วนคอนโดมิเนียมกว่า 80% จาก 490 ยูนิต 42 ชั้น ในส่วนที่อาคารสำนักงานให้เช่าสูง 31 ชั้น"นายสุริยน กล่าว
อนึ่ง โครงการอีควิน็อกซ์ พหล-วิภา ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 490 ยูนิต พื้นที่ตั้งแต่ 30 — 248 ตร.ม.อาคารสำนักงานให้เช่าสูง 31 ชั้น และคอมมูนิตี้ มอลล์ โดยมีพื้นที่ขายทั้งหมด 21,485 ตารางเมตร ในพื้นที่ 6.5 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณแยกลาดพร้าว ติดถนนพหลโยธินและวิภาวดี