บล.เคที ซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ(NWR) มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ปรับดีขึ้น อาจทำให้เกิดกระแสการเก็งกำไรระยะสั้นได้ ตลาดประเมินมูลค่าพื้นฐานไว้ที่ 1.49 บาท และมีแนวต้านทางเทคนิค 1.40 บาท และ 1.50 บาท ตามลำดับ
NWR มีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาทใน 3Q55 ลดลง 21%YoY แต่เพิ่มขึ้น 266%YoY หากไม่นับรวมกำไรจากการขายเงินลงทุนบริษัทย่อย 266 ล้านบาท NWR จะขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจ 94 ล้านบาท ใน 2Q54 สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไร
หากไม่นับรวมการชำระคืนหนี้ค่าก่อสร้างเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ในประเทศเมียนมาร์ที่ได้รับจาก Meeyahta International Hotel Limited (MIHL) เป็นก้อนแรกหลังการประนอมหนี้ จำนวน 27 ล้านบาท สุทธิกับค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องผู้ว่าจ้างโครงการอาคารชุดที่ดูไบแล้ว NWR น่าจะมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติ 125 ล้านบาทใน 3Q55 เพิ่มขึ้น 237%YoY
กำไรที่ปรับดีขึ้น เป็นเพราะ 1) รายได้จากงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น 145%YoY และ 23%QoQ จากงานโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม และโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย 2) อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้น จาก -3% ใน 3Q54 เป็น 5.5% ใน 2Q55 และ 9% ในไตรมาสล่าสุด 3) ผลการดำเนินงานบริษัทร่วมปรับดีขึ้น จากขาดทุน 13 ล้านบาท ใน 3Q54 เป็นกำไร 37 ล้านบาท ใน 2Q55 และ 42 ล้านบาท ใน 3Q55 (หลักๆ มาจากบริษัท ซี.ไอ.เอ็น เอสเตท — ทำโครงการอาคารชุดดิ อิสระ ลาดพร้าว)
ฐานะการเงินปรับดีขึ้น มีกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจปกติ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดจาก 3.28 เท่าเมื่อสิ้นปี 54 เหลือ 3.23 เท่า ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.51 เท่า
ทั้งนี้ NWR มีกำไรสุทธิรวม 231 ล้านบาท ใน 9M55 พลิกจากขาดทุนสุทธิ 166 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 36% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ตลาดประเมินไว้ 648 ล้านบาท ซึ่งได้รวมการชำระคืนหนี้จาก MIHL ส่วนที่เหลืออีก 364 ล้านบาท (เข้ามาแล้วในเดือน ต.ค. 55) ไว้แล้ว หากไม่นับรายการดังกล่าว กำไร 9M55 จะคิดเป็น 81% ของประมาณการกำไรปกติ