ปัจจุบัน TTCL มีงานในมือ(Backlog) จำนวน 2.1 หมื่นล้านบาท คาดรับรู้รายได้ราว 20% หรือ 4 พันล้านบาท ในปีนี้ และ 50% รับรู้เป็นรายได้ในปี 56 และอีก 30% รับรู้ในปี 57 ทั้งนี้งานในประเทศ ได้แก่ โครงการนวนคร โรงงานปิโตรเคมีในมาบตาพุด ส่วนโครงการในมาเลเซีย และในเวียดนามซึ่งเป็นโครงการปุ๋ยและปิโตรเคมี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาและประมูล รวมมุลค่า 7.4 หมื่นล้านบาท คาดจะทราบผลในปีนี้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ส่วนงานในพม่า เป็นงานสร้างโรงไฟฟ้า ขนาด 120 เมกะวัตต์ มูลค่า 150-170 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกคาดสามารถจ่ายไฟได้ในไตรมาส 2/56 กำลังการผลิต 70 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ ส่วนเฟส 2 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์คาดสร้างเสร็จพร้อมจ่ายไฟ ในไตรมาส 3/57
นอกจากนี้ ในพม่า ยังมีงานรอประมูลอีกมาก โดยจากนี้ไปรัรฐบาลพม่าเตรียมประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่รวมโครงการทวาย) ซึ่งบริษัทมองว่าจะมีโอกาสได้งานในพม่า
ส่วนโครงการกรองน้ำทะเล ในกาต้าร์ นายกอบชัย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะทราบผลการประมูล มูลค่างานที่บริษัทร่วมทุนมีจำนวนเงิน 7-8 พันล้านบาท ซึ่งโครงการนี้มีระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี
นายกอบชัยกล่าววา บริษัทได้มองวางแผนรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ไว้แล้ว โดยบริษัทได้ตั้งบริษัทลูกในเวียดนาม และเข้าลงทุนในพม่า ทั้งนี้ AEC จะช่วยเสริมแผนงานของบริษัทให้เป็นจริงมากขึ้น