สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB21DA (รุ่นอายุ 4.6 ปี, 2.5 ปี และ 9.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 4,419 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP135A) มูลค่า 804 ล้านบาท
2. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC16NA) มูลค่า 201 ล้านบาท
3. บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU184A) มูลค่า 154 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,159 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 6,086 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 1,264 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 1,563 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวลงเล็กน้อยในตราสารหนี้ระยะยาว หรือลดลงประมาณ 1 bp. ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกประมูลโดย ธปท. ในวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก ด้วยค่า BCR (Bid Coverage Ratio) ที่ 3.04 เท่าของวงเงินประมูล ทางด้านนักลงทุนในตลาดยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งของสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะดัชนี PMI ที่เพิ่งประกาศออกมา และพบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น ด้านนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแรงซื้อในตราสารหนี้ระยะสั้น โดยในวันนี้ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,563 ล้านบาท