แต่ในวันพรุ่งนี้มองว่าตลาดมีโอกาลลง และมีการพักฐาน มองแนวต้านไว้ที่ 868-872 จุด แนวรับที่ 860-858 จุด จึง แนะนำให้ถือ short หรือรอจังหวะเข้าเปิด short บริเวณ 868-872 จุด และให้จุด stop loss ที่ 874 จุด
อนึ่ง สิ่งที่ต้องติดตาม วันที่ 26 พ.ย. นี้ การประชุมอียูต่อกรณีกรีซ อาจเห็นกรอบการช่วยเหลืองวดถัดไปแก่กรีซที่ ชัดเจนยิ่งขึ้น และ การประชุมสภาคองเกรส สหรัฐฯ วันที่ 26 พ.ย. — 15 ธ.ค. เป็นการประชุมนัดสำคัญต่อแนวทางการแก้ไข ปัญหาหน้าผาทางการคลัง ส่วนในประเทศ ว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พ.ย.55
ส่วน Gold Futures มองว่ามีลุ้นขึ้น เพราะมีแนวโน้มขาขึ้น ให้แนวต้านไว้ที่ 25,500 - 25,800 บาท ส่วนแนวรับ ให้ไว้ที่ 25,200 บาท ทั้งนี้ประเด็นปัญหาหนี้กรีซ ทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง
ด้านบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด มองว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นเพียง เล็กน้อยและแกว่งตัวในช่วงแคบๆ โดยราคาทองคำถูกถ่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป นักลงทุนกังวลว่า หากกรีซไม่ได้รับช่วยเหลือเพิ่มเติมอาจจะทำให้เศรษฐกิจของกรีซล่มสลายภายในสิ้นปีนี้ และอาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่ว โลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาอ่อนตัวลงยังคงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่ IMF เปิดเผยว่า ธนาคารกลางของหลายประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นประมาณ 40 ตันในเดือนตุลาคม และคาดว่ายอดรวมการ ซื้อทองคำของประเทศกลุ่มนี้ในปี 2555 อาจจะพุ่งขึ้นเหนือระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2554 ที่ 457 ตัน
วายแอลจีประเมินว่าราคายังมีการแกว่งตัวแคบลงเพื่อรอความชัดเจนจากปัญหาพื้นฐาน ซึ่งนักลงทุนจะเห็นได้ว่ากระแส ข่าวที่เกิดขึ้นในยุโรปนั้นไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ แต่กระแสข่าวเหล่านี้มีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ทำให้ วายแอลจีแนะนำว่าควรติดตามกระแสข่าวอย่างใกล้ชิดควรควบคู่ไปกับการจำกัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รอซื้อทองคำแนะนำให้หาจังหวะเข้าสะสมเมื่อราคาย่อตัว ลงมาบริเวณแนวรับต่างๆ ซึ่งการซื้อทองคำเมื่อราคาย่อตัวลงมาไม่ควรหลุดแนวรับ 1,722 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรตาม บริเวณแนวต้าน 1,742 หรือ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยดูบริเวณ แนวรับสำคัญถัดไปที่ 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และนอกจากจะหาจังหวะการเข้าสะสมแล้วนักลงทุนยังจำเป็นต้องประเมินขนาดการลง ทุนในแต่ละรอบเพื่อที่จะสามารถคำนวณความเสี่ยงในการลงทุนในแต่ละครั้งให้อยู่ในขนาดที่พอร์ตการลงทุนสามารถแบกรับได้
ดัชนีอ้างอิง SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 867.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, +0.28%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 30,642 219,938 Total Futures 30,594 216,061 Brent Crude Oil 527 906 Metal 8,647 35,354 - 50 Baht Gold 2,039 12,926 - 10 Baht Gold 6,525 22,070 - Silver 83 358 USD 1,496 19,974 Interest Rate - - - 3M BIBOR - - - 6M THBFIX - - - 5Y Gov Bond - - SET50 Index 8,988 41,786 - S50X12 33 86 - S50Z12 8,263 36,977 - S50F13 - 17 - S50H13 664 4,051 - S50M13 25 439 - S50U13 3 213 Sector Index Futures - 5 - BANK Index Futures - 3 - COMM Index Futures - - - ENERG Index Futures - 1 - FOOD Index Futures - - - ICT Index Futures - 1 Single Stock 10,936 118,036 - ADVANC Futures 8 105 - BANPU Futures - 110 - BAY Futures 404 2,811 - BBL Futures 240 1,350 - BTS Futures 424 64,653 - CPALL Futures 230 342 - CPF Futures 3 1,409 - DTAC Futures 1 73 - HMPRO Futures 17 464 - IRPC Futures 123 2,097 - ITD Futures 283 4,635 - IVL Futures 117 1,360 - KBANK Futures 119 978 - KTB Futures 8,217 15,501 - LH Futures 212 1,219 - MINT Futures 100 65 - PS Futures 1 182 - PTT Futures 14 652 - PTTEP Futures 14 249 - QH Futures 73 7,131 - SCB Futures 103 428 - SCC Futures 1 125 - STA Futures 10 327 - TCAP Futures 6 220 - THAI Futures - 172 - TMB Futures 35 7,352 - TOP Futures 59 251 - TRUE Futures 112 2,070 - TTA Futures 7 1,300 - TUF Futures 3 397 Total Options 48 3,877 SET50 Index 48 3,877 Call 13 1,136 Put 35 2,741