สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA, LB196A และ LB236A (รุ่นอายุ 9.1 ปี, 6.6 ปี และ 10.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 2,349 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU184A) มูลค่า 410 ล้านบาท
2. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP173A) มูลค่า 345 ล้านบาท
3. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC195C) มูลค่า 309 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,064 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 14,546 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 8,057 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ มูลค่า 2,452 ล้านบาท
Yield Curve ขยับตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบแคบๆ หรือปรับตัวอยู่ในช่วงประมาณ -1 ถึง +1 bp ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่กระจุกตัวอยู่ในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย ธปท. ในวันนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด ทั้งนี้ นักลงทุนยังรอติดตามผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหรือมีนโยบายใหม่ๆ ออกมาหรือไม่ ทางด้านนักลงทุนต่างชาติ ยังคงมีแรงขายในตราสารหนี้ระยะสั้น หรือคิดเป็นยอดขายสุทธิ เท่ากับ 2,452 ล้านบาท