JMT ตั้งเป้าปี 56 กำไรโต 30% รายได้โต 13-15% ซื้อหนี้ 1 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 26, 2012 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) คาดว่าปี 56 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโต 30% จากปี 55 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะโตก้าวกระโดด เนื่องจากในช่วง 9 เดือนปี 55 กำไรสุทธิเติบโต 61% เนื่องจากที่ผ่านมามีอัตรากำไรขั้นต้นของการบริหารหนี้เกิน 50% ซึ่งในปีนี้คาดยังสามารถรักษาอัตรานี้ได้

ส่วนรายได้ในปี 56 ตั้งเป้าเติบโต 13-15% จากปี 55 ที่คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 390 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มี 324 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้รวม มาจากการบริหารหนี้ของตัวเอง 78% ที่เหลือรับจ้างบริหารหนี้ของสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 20 แห่ง บริษัทตั้งเป้าซื้อสินเชื่อรายย่อยซึ่งเป็นสินเชื่อบุคคลกับสินเชื่อบัตรเครดิต เพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันพอร์ตมีอยู่ 2 หมื่นล้านบาท และจากนี้ถึงสิ้นปีจะซื้อเพิ่มอีก 5 พันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองเพิ่มเป็น 300 ล้านบาทในปีหน้า จากปัจจุบันมีอยู่ 100 ล้านบาท และปี 57 จะเพิ่มเป็น 600 ล้านบาท

นายปิยะ กล่าวว่า การซื้อขายหุ้น JMT วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ มั่นใจว่าหุ้น JMT จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 4 บาท/หุ้นได้ เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีทิศทางการเติบโตในอัตราที่โดดเด่นชัดเจนและต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทฯ มีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในอัตราสูง อีกทั้งยังถือเป็นธุรกิจที่ไม่มีคู่แข่งในปัจจุบัน ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่าง

"หุ้นที่เข้าเทรดดวันแรก เชื่อว่าราคาน่าจะร้อนแรงเพราะว่าผลประกอบการบริษัทดี และมีเป้าการทำงานที่ชัดเจน ธุรกิจก็ไม่มีคู่แข่ง เชื่อว่าหลังเช้าตลาด นักลงทุนสถาบันน่าจะให้ความสนใจ"นายปิยะ กล่าว

บริษัทยังยืนยันจะเป็นบริษัทฯ ที่จ่ายปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราที่ดีถึง 50% ของกำไรสุทธิด้วย ประกอบกับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะนำไปใช้ซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารจัดการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลประกอบการของ JMT มีทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจนในอนาคต จึงเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน จนทำให้เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุนหวังผลตอบแทนในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ