(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัว รอปัจจัยหนุนใหม่ หลัง Fiscal Cliff ยังไม่คืบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 28, 2012 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจริญ เอี่อมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะเคลื่อนไหว sideway ตลาดยังมีนัยโอกาสขึ้นก็ยังมี อาจมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง ทั้งนี้วันนี้ไม่มีปัจจัยใหม่จากต่างประเทศ โดยปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐฯ ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ

ให้แนวต้านวันนี้ที่ 1,300 จุด แนวรับที่ 1,280 จุด

ขณะที่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองว่า การเคลื่อนไหวของ SET Index ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่าดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างน่าพอใจ โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ (การผ่อนคลายทางการเมือง)มากกว่าต่างประเทศ แต่การปรับตัวขนึ้ ต่อเนื่องจนกระทั่งถึงระดับ 1,298.47 จุดเมื่อวาน นับว่าขึ้น มาทดสอบแนวต้านทางด้านจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นบริเวณ 1,300 จุด

"ในมุมมองของเราเห็นว่าโอกาสในการปรับขึ้นทะลุ 1,300 จุดทันทียังไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายนัก เนื่องจากจะต้องมีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยผลักดันมากขึ้นเพื่อให้การทะลุ 1,300 จุดเป็นไป"

ปัจจัยพื้นฐานรองรับ ที่เห็นว่า ปัจจัยที่มีนัยสำคัญในการปรับตัวขึ้นในลำดับต่อไปของตลาดหุ้นไทย ก็คือ ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐ (fiscal cliff) ซึ่งถ้าผลการเจรจาออกมาเป็นบวก เราเชื่อมั่นอย่างมากว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นทันที เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(27 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,878.13 จุด ลดลง 89.24 จุด (-0.69%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,398.94 จุด ลดลง 7.35 จุด(-0.52%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,967.79 จุด ลดลง 8.99 จุด(-0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 47.82 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.69 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 79.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 11.78 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 8.89 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ลดลง 6.39 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 2.05 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 5.34 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 3.60 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(27 พ.ย.)1,297.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.18 จุด(+0.48%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,193.56 ล้านบาท เมื่อ 27 พ.ย.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(27 พ.ย.) ที่ 87.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.56 ดอลลลาร์หรือ 0.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(27 พ.ย.) ปิดที่ 4.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.69/71 คาดแนวโน้มวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 30.65-30.80
  • ภาคการเงินเอเชียผวากฎหมาย ด็อดแฟรงก์ เปิดทางใช้กฎระเบียบสหรัฐยุโรป คุมเอเชีย ด้าน ธปท. ระบุกระทบตลาดเงินไทยไม่มาก แต่ศึกษาผลกระทบ เหตุรายละเอียดมากและซับซ้อน ประเด็นค่าเงินยังต้องติดตาม ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุตลาดเงินเอเชียอาจเผชิญความเสี่ยง
  • โออีซีดี ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าเหลือ 3.4% จากเดิม 4.2% เตือนจากชะลอตัวมาก ขณะที่ ไอเอ็มเอฟ ยูโรโซนตกลงปล่อยกู้ก้อนใหม่กรีซ กว่า 40,000 ล้านยูโร พร้อมลดหนี้ลงเหลือ 124% ของ จีดีพี
  • แบงก์ชาติเกาะติดหนี้ครัวเรือน ส่งหนังสือเวียนแบงก์ และนอนแบงก์ จี้เปิดเผยดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใส เตรียมเรียกแบงก์หารือ 3 ธ.ค.นี้ หวังคุมเข้มโฆษณา หลังพบเป็นลักษณะกระตุ้นก่อหนี้มากเกินไป พร้อมกำชับดูแลการเสนอขายผลิตภัณฑ์การเงิน เผยที่ผ่านมามีร้องเรียนเข้ามาอื้อ ย้ำเป็นเรื่องสำคัญ เหตุแนวโน้มแบงก์หันเน้นขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มขึ้น
  • กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ทุ่มงบลงทุนเร่งเพิ่มกำลังการผลิตปีหน้า รับความต้องการพุ่งตามการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ หลังปีนี้ผลิตเต็มกำลังดันรายได้โตเกิน 50% "ไทยรุ่ง" คาดใช้งบ1.5 พันล้านบาท สำหรับชิ้นส่วนและห้องพ่นสี ขณะที่ทีกรุงไทยอุตสาหกรรรมมองไกล เล็งบุกตลาดอินโดนีเซีย
  • นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)เปิดเผยว่า รฟม.จะเปิดประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ดมีนบุรี ช่วงกลางปี 2556 โดย รฟม.อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท บางกอกแลนด์ ที่จะตัดเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าเมืองทองธานี และใช้เป็นโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าด้วย ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท รฟม.จึงส่งให้สำนักงานกฤษฎีกาตีความว่าเข้าข่ายต้องใช้พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ หรือไม่ โดยได้ส่งเรื่องนี้ไปแล้ว 1 เดือน
  • นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้มาใช้สิทธิรถคันแรกแล้วจำนวน5.81 แสนคัน คิดเป็นเงินที่ต้องจ่ายคืน 4.29 หมื่นล้านบาทคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีผู้มาใช้สิทธิกว่า 6 แสนคัน ซึ่งจะทำให้งบประมาณที่ตั้งจ่ายคืนรถคันแรกในปี 2556 จำนวน 30,000 ล้านบาท จะขาดไป 1.1 หมื่นล้านบาททางกรมบัญชีกลางจึงจะขอรัฐบาลให้อนุมัติงบกลางมาจ่ายคืนให้กับผู้ซื้อรถ
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในรอบวันที่ 28 พ.ย.นี้ ยังไม่มีปัจจัยอะไรเป็นพิเศษ เพราะปัจจัยส่วนใหญ่ที่จะนำมาประกอบการพิจารณากำหนดทิศทางดอกเบี้ยนโยบายยังเป็นปัจจัยเดิม เหมือนการประชุมครั้งที่แล้ว ดังนั้นการประชุม กนง.ในวันที่ 28 พ.ย.นี้คงเป็นการพิจารณาข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และพิจารณาปัจจัยผลกระทบต่างๆ ที่มีอยู่เดิมว่าพัฒนาไปอย่างไรมากกว่า

*หุ้นเด่นวันนี้

  • INET(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 3.60 บาท เป็น 1 ในหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรง หากผลการตัดสินของศาลปกครองในสัปดาห์นี้ ออกมาในเชิงบวก และส่งผลให้กสทช.สามารถจัดสรรใบอนุญาต 3G ให้กับเอกชนได้ ขณะที่ทิศทางผลประกอบการ 3Q55 ชี้ให้เห็นสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขาดทุนสุทธิเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท และคาดว่าผลประกอบการปี 2556 จะพลิกเป็นกำไรครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่ 74 ล้านบาท และขยายตัวต่อเนื่อง +15.5% yoy เป็น 86 ล้านบาทในปี 2557
  • INTUCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 76 บาท คาดว่าหุ้นกลุ่มสื่อสาร จะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังวานนี้โฆษกศาลปกครอง แถลงว่าศาลจะมีคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดี 3G ไว้พิจารณาหรือไม่ ภายในสัปดาห์นี้ หลังเสร็จสิ้นการไต่สวนผู้เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้น้ำหนักเชิงบวกต่อการตัดสินของศาลปกครอง และเชื่อจะส่งผลให้การจัดสรรใบอนุญาต 3G เดินหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หลังเสร็จสิ้นการประมูล หรือไม่เกิน 18 ม.ค.2556
  • SAMART(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"ข่าวรมว. ICT เร่งบอร์ดฯ TOT ให้เร่งติดตั้งโครงข่าย 3G เฟส 2 ซึ่งดีต่อกลุ่ม SAMART เพราะได้งาน 65% ในเฟสแรก คาดการประมูลจะเกิดใน 1H13 และถ้า SAMART ประมูลได้ ราคาเป้าหมายจะเพิ่มจาก 11.70 เป็น 14.20 บาท
  • IRPC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"มีมุมมองเป็นบวกต่อการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจโดยการทำธุรกิจพัฒนาที่ดิน ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้แล้ว ยังสร้างกระแสเงินสด และ ลดความกดดันจากธุรกิจปิโตรเคมีที่มีความผันผวนจากราคาขายผลิตภัณฑ์ได้ดี สำหรับประเด็นบวกในระยะสั้น โดยคาดว่า กำไรปกติในไตรมาสสุดท้ายยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากโครงการขยายกำลังการผลิตสินค้า เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ ให้มูลค่าเหมาะสม 4.68 บาท
  • SYMC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 24.20 บาท มีความน่าสนใจลงทุนจาก 1) มีโอกาสเติบโตสูงจากการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจสื่อสารและธุรกิจบันเทิง 2) การใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เพิ่มขึ้นคาดว่าจะเริ่มเห็นผลบวกชัดเจนตั้งแต่ปี 2557 จากกระแสเงินสดมีแนวโน้มเติบโตกว่า 10% และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่งทำให้อยู่รอดในธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง และมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ