นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ คาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถยืนเหนือ 1,300 จุด ได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากแรงหนุนของตลาดหุ้นในต่างประเทศ และตลาดหุ้นในเอเชียเปิดบวกกันหมดในเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเจรจาเรื่องการแก้ปัญหา Fiscal cliff ของสหรัฐเอมริกา เริ่มมีแนวทางการแก้ปัญหามากขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาออกมาค่อนข้างดี
กลุ่มหุ้นที่มีแรงหนุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ นายเกียรติก้อง มองว่า จะมีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเมื่อวานมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ข้อสรุปหารทรงอัตราดอกเบี้ยไว้ ไม่ถือว่าเป็นผลลบกับธนาคารพาณิชย์ ส่วนอีกกลุ่ม คือ หุ้นกลุ่มสื่อสาร เนื่องจาก คาดว่าภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้จะทราบผลการตัดสินของศาลปกครองเรื่องการประมูลใบอนุญาต 3G ซึ่งขณะนี้ยังเป็นปัจจัยที่ยังหน่วงหุ้นกลุ่มนี้อยู่
พร้อมให้แนวรับ 1,395 จุด แนวต้าน 1,305-1,308 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(28 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,985.11 จุด เพิ่มขึ้น 106.98 จุด (+0.83%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,409.93 จุด เพิ่มขึ้น 10.99 จุด(+0.79%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,991.78 จุด เพิ่มขึ้น 23.99 จุด(+0.81%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 61.94 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.03 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 112.07 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.70 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 0.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.00 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 0.20 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(28 พ.ย.)1,299.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด(+0.22%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 125.20 ล้านบาท เมื่อ 28 พ.ย.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(28 พ.ย.) ที่ 86.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.69 ดอลลลาร์หรือ 0.79%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(28 พ.ย.) ปิดที่ 3.96 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.72/74 อ่อนค่าตามภูมิภาค ยังกังวลปัญหาหนี้กรีซที่ขาดความชัดเจน
- สั่งสอบแบงก์ปล่อยข้อมูลรั่ว'หมอวรงค์'ยื่นสอบฟอกเงินจันทร์นี้ นายกฯป้องนโยบายจำนำข้าว ยันมูลค่าส่งออกไทยมากสุดพร้อมเข้มตรวจสอบทุจริต ปชป.ยื่นข้อมูลปปง.สอบเส้นทางฟอกเงิน ขายข้าวจีทูจีให้จีน พร้อมส่งหลักฐานป.ป.ช.สอบเจ้าหน้าที่ร่วมทุจริตตั้งบริษัทผีขายข้าว เจ้าหน้าที่แบงก์กรุงไทยระส่ำ ถูกตั้งกรรมการสอบ เหตุปล่อยข้อมูลโอนเงินรั่วไหล"อภิศักดิ์"อดีตบิ๊กบอสแบงก์กรุงไทยเผยเบื้องหลังปล่อยกู้สยามอินดิก้าต่ออายุธุรกิจหวังเรียกหนี้คืนเพรซิเดนท์อะกริเทรดดิ้ง "นพ.วรงค์"เปิดเบื้องลึกหาข้อมูลฉีกหน้ากากรัฐขายข้าวจีทูจีลวงโลก
- ธปท.ผวาหนี้ผิดชำระพุ่งเพิ่มความเสี่ยงเศรษฐกิจ กนง. หวั่นแนวโน้มผิดชำระหนี้สูงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงเศรษฐกิจ ระบุสินเชื่อขยายตัวเกินอัตราเฉลี่ย ขณะมีมติ 7 ต่อ 0 เสียง คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.75% ชี้อยู่ในระดับที่ผ่อนปรน-เหมาะสม หนุนเศรษฐกิจขยายตัว เตรียมหารือร่วมบอร์ด "กนง.-กนส." เดือนหน้า ถกสินเชื่อ-ประเมินปัจจัยเสี่ยงราคาสินทรัพย์
- คลังก้มหน้ากู้เงินก้อนมหึมา 1.01 ล้านล้านบาท ชวนคนซื้อพันธบัตรดอกสูง 3.75% ออมสินสู้ขาดใจให้ 4% ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เผยในปีงบประมาณ 2556 สบน.จะระดมทุนผ่านตลาดพันธบัตรและตราสารหนี้อื่นๆรวมทั้งสิ้น 1.01 ล้านล้านบาท แยกเป็นเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ FIDF รวม 1.66 แสนล้านบาท เพื่อใช้ปรับโครงสร้างหนี้ขาดดุลงบประมาณ1.57 แสนล้านบาท กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 3 แสนล้านบาท กู้เงินตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 3.4 แสนล้านบาท และกู้เงินตาม พ.ร.ก.ประกันภัยพิบัติอีก 4.95 หมื่นล้านบาท
- สว.อัดลอยตัวแอลพีจีอุ้มภาคอุตฯ ลอยแพประชาชนใช้ก๊าซราคาตลาดโลก สับ "ปู" อุ้มกลุ่มทุนน้ำมันไม่ขึ้นค่าภาคหลวง
น.ส.รสนา โตสิตระกูล สว.กทม.กล่าวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนโยบายพลังงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ถือว่าเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงเชิงนโยบายรัฐบาล จึงขอเรียกร้องให้ทบทวนนโยบายการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี หรือการลอยตัวราคา ภายในปี2556 เนื่องจากนโยบายนี้เป็นการโยนภาระให้กับประชาชน แต่กลับไปอุ้มกลุ่มทุนหรือกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
*หุ้นเด่นวันนี้
- BJC(ฟินันเซียไซรัส)"ซื้อ"เป้า 61 ราคาหุ้นปรับลงมาแล้ว 18% จนปัจจุบันมี upside เพิ่มขึ้นเป็น 14% จากราคาเป้าหมาย จึงกลับมาแนะนำ‘ซื้อ’อีกครั้งเพราะยังชอบการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งใน 5 ปีข้างหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้เฉลี่ยปีละ 15-20% และยังมีแผนขยายกำลังการผลิตในทุกธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคอินโดจีน
- กลุ่มแบงก์พาณิชย์(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)คงน้ำหนัก“มากกว่า"ตลาด ภาพรวมยังคงมุมมอง“เป็นบวก"สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์จาก Momentum การขยายตัวของสินเชื่อและผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานทางการเงินยังคงแข็งแกร่งโดยเรายังคงเลือก TCAP และ KK เป็นหุ้น Top pick สำหรับการลงทุนระยะกลาง(3-6 เดือน)จาก Momentum การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยและผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ขณะที่ KTB เป็นหุ้นเด่นสำหรับการลงทุนระยะยาว(1-2 ปี)จากความคาดหวังการเร่งตัวของความต้องการสินเชื่อภาครัฐ และ Valuation ที่ยังคง discount เมื่อเทียบกับกลุ่มค่อนข้างมาก
- ROBINS(ทรีนิตี้)"ซื้อ"เป้าปี 56 อยู่ที่ 76 บาท ศักยภาพการเติบโตที่ดีในระยะยาว และยังจัดเป็นบริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง เพราะไม่มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจ่ายเลยและมีฐานะ Net Cash ถึง 2 พันล้านบาท อีกทั้งปัจจุบันมี Upside 17% ราคาเป้าหมายปี 56 อิงวิธี DCF ที่ 76 บาท และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปกติปี 55 อีกหุ้นละ 0.91 บาท(จ่ายปีละครั้ง)คิดเป็น Div. Yield 1.4%