GUNKUL คาดรายได้ปี 56 โต 10% จาก 4.3 พันลบ.ปีนี้, กำไรโตกว่ารายได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 29, 2012 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) คาดว่าในปี 56 รายได้จะเติบโต 10% จากปีนี้ที่มั่นใจว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4.3 พันล้านบาท ขณะที่กำไรคาดว่าจะมีอัตราเติบโตสูงกว่ารายได้

ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog)มูลค่าราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในไช่วงไตรมาส 4/55 ประมาณ 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ฯในปี 56 อีกทั้งภายในสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะรู้ผลประมูลโครงการกังหันลมมูลค่า 800 ล้านบาท และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่อีกราว 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในช่วงกลางปี 56

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ GUNKUL กล่าวว่า อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิในปีหน้าจะสูงกว่ารายได้ เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จะเดินเครื่องครบ 57 เมกะวัตต์ในเดือน ก.พ.56 ทำให้สัดส่วนกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดีกว่าธุรกิจเทรดดิ้ง โดยธุรกิจโรงไฟฟ้าให้อัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจเทรดดิ้งมาก ทำให้กำไรสุทธิเติบโตดีกว่าการเติบโตของรายได้

สำหรับอัตรากำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 11% และคาดว่าสิ้นปีนี้จะสูงกว่า 10% ขึ้นอยู่กับไตรมาส 4/55 จะรับรู้รายได้งานโครงการก่อสร้างมากหรือน้อยกว่าธุรกิจเทรดดิ้ง แต่เชื่อว่าทั้งปีกำไรสุทธิจะสูงกว่าปีก่อนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/55 บริษัทมีกำหนดจะรับรู้รายได้จาก Backlog ราว 500-600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้รายได้ปีนี้อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท ส่วนงานที่เหลือ 900 ล้านบาทจะไปรับรู้ในปี 56 ทั้งหมด ขณะที่วานที่บริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานรับเหมาในประเทศอีก 2,000 ล้านบาทจะรู้ผลกลางปี 56 และยื่นประมูลงานโครงการกังหันลมที่ลำตะคอง จ.นครราชสีมา มูลค่า 800 ล้านบาทจะรู้ผลสิ้นปีนี้ หากได้รับงานเข้ามาก็จะเป็น backlog ที่รอรับรู้รายได้ในปีหน้า

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าในประเทศพม่าปี 56 คาดว่าจะทำยอดขายมากกว่า 560 ล้านบาทในปีนี้ เพราะปีนี้รัฐบาลไม่มีงบประมาณออกมาเลย แต่ปีหน้าคาดรัฐจะออกงบประมาณเพื่อการพัฒนาประเทศจำนวนมหาศาล

ซึ่งในพม่าปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมซึ่งปัจจุบ้นได้รับสัมปทานแล้ว 3 รัฐ จำนวน 1,000 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างวัดเสาลม 1 โครงการ คาดรู้ผลสิ้นปีนี้ และกำลังศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มอีก 2 รัฐ คาดรู้ผลสิ้นปีนี้เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ