ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 36.71 จุดหรือ 0.28% ปิดที่ 13,021.82 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.02 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 1,415.95 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 20.25 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 3,012.03 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 2.7% ต่อปีในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2555 ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบเกือบสามปี และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งแรกที่ 2.0% อีกทั้งยังขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% เนื่องจากการปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังและการส่งออกที่แข็งแกร่งขึ้น ได้ช่วยชดเชยการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนทางธุรกิจที่อ่อนแอลง
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ย. ลดลง 23,000 ราย มาอยู่ที่ 393,000 ราย โดยเป็นการลดลงสองสัปดาห์ติดต่อกัน สะท้อนว่าความผันผวนในตลาดแรงงานสหรัฐอันเนื่องมาจากพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ได้เริ่มบรรเทาเบาบางลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากความขัดแย้งเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลังของสหรัฐ หลังจากที่นายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติเร่งทำข้อตกลงและหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) โดยเขาคาดหวังว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะลงนามในข้อตกลงด้านการคลังได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาส นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่า หากสหรัฐเผชิญ "หน้าผาการคลัง" พร้อมกับกล่าวว่าหากสหรัฐไม่ได้แก้ไขปัญหาด้านการคลัง ภาคธุรกิจภายในประเทศก็มีแนวโน้มที่จะลดการลงทุนและจ้างงาน
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ปรับตัวขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลอีก 25% เช่นเดียวกับบริษัทอีกหลายแห่งที่พากันเพิ่มการจ่ายเงินปันผลก่อนที่มาตรการปรับขึ้นภาษีจะมีผลบังคับใช้ปีหน้า
หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน (AMD) ผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี่ พุ่งขึ้น 4% หลังจากนักวิเคราะห์ของออราเคิล อินเวสต์เมนท์ รีเสิร์ช ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้น AMD
ส่วนหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้น 1.1%