นายอภิชาต ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้น่าจะขยับตัวขึ้นต่อได้ทำดัชนีสูงสุดใหม่ได้ หลังจากทะลุจุดสูงสุดเดิมที่ 1,314 จุด ที่ทำไว้ในช่วง 2 เดือนที่แล้ว ปัจจัยมามากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ารอบใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อสุทธิถึง 3 พันกว่าล้านบาท และมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างหนาแน่นอยู่ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท เป็นสัญญาณที่ดีแสดงถึงภาวะตลาดที่คึกคักและเป็นแนวโน้มขาขึ้น
และปัจจัยจากประเทศจีนที่ประกาศตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการขยายตัวดีขึ้น จากเดิม 50.2 ในเดือนตุลาคม ขยายตัวเป็น 50.6 ในเดือนพฤศจิกายน ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นผลดีให้กับตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย
วันนี้การปรับตัวขึ้นของตลาดฯไม่น่าจะขึ้นแรงเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว เพราะตลาดหุ้นไทยขยับตัวขึ้นมา 7 วันติดต่อกัน ฉะนั้นโอกาสที่ขึ้นต่อไปอีกมีน้อยมาก น่าจะเห็นการปรับฐานลงชั่วคราวภายใน 1-2 วันจากวันนี้ ส่วนประเด็นที่ยังต้องติดตามในวันนี้คงเป็นการอ่านคำสั่งศาลปกตรองเกี่ยวกับการประมูล3G และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในคืนนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,317-1,320 จุด แนวต้าน 1,330-1,335 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์(30 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,025.58 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด (+0.03%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,416.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.23 จุด(+0.02%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,010.24 จุด ลดลง 1.79 จุด(+0.06%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 38.19 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.38 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 3.80 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 2.48 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.54 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.52 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 40.05 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวันศุกร์(30 พ.ย.)1,324.04 จุด เพิ่มขึ้น 14.47 จุด(+1.10%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,851.75 ล้านบาท เมื่อ 30 พ.ย.55
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(30 พ.ย.) ปิดที่ 4.04 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.69/71 แนวโน้มแข็งค่า ยังต้องติดตามผล Fiscal Cliff
- "บอร์ด กทค." เตรียมรับมือคำสั่งศาลปกครองกลางในคดีประมูล 3G ยันพร้อมยื่นอุทธรณ์ หากผลออกมาในทางลบ ส่วนคณะทำงานตรวจสอบใบอนุญาต "บีเอฟเคที" บริษัทในกลุ่มทรูฯ ว่ามีใบอนุญาตให้เช่าโครงข่ายถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ สรุปผลสอบในวันที่ 3 ธันวาคมนี้เช่นกัน
- ทีมสอบจีทูจี พณ.ตรวจซื้อขายข้าวย้อนหลัง 3 ปีคาดรู้ผล 15 วัน/หมอวรงค์ยื่นปปช.วันนี้ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จะหารือกับนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 3 ธ.ค.เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจมาตรวจสอบสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ว่ามีความถูกต้องเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญญาซื้อขาย โดยเฉพาะการตรวจสอบคุณสมบัติของรัฐวิสาหกิจจีนซึ่งกำลังเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาอภิปราย ว่ามีบริษัทไทยสวมสิทธิให้กับรัฐวิสาหกิจจีนรายนี้หรือไม่
- ผู้จัดงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 แจ้งว่า ยอดจองรถยนต์ในงาน 3 วันแรก คือตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค.ในงานนั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 12,245 คัน เป็นยอดจองรถยนต์ที่สามารถใช้สิทธิรถคันแรกประมาณ 30-40% โดยค่ายรถยนต์ที่มียอดจองมากที่สุดใน 3 วันแรกคือ ฮอนด้า มียอดจองทั้งสิ้น 2,907 คัน รองลงมาเป็นโตโยต้า 2,735 คันอีซูซุ 1,145 คัน นิสสัน 1,055 คัน
- เครดิตบูโรส่งสัญญาณคนมีรายได้ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน เริ่มมีอัตราค้างชำระเพิ่ม แต่ยังไม่ก่อให้เป็นหนี้เน่า หวั่นหันไป กู้เงินนอกระบบ กลายเป็นภาระสังคม ขณะที่ ธปท.ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม นัดผู้ประกอบการหารือวันนี้ (3 ธ.ค.) ให้ลดการกระตุ้น ก่อหนี้ ด้าน เฟิร์สช้อยส์ ผู้นำสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า ยันไม่เห็นสัญญาณหนี้เพิ่ม ระบุทุกอย่างทำตามกฎกติกา ธปท. ยันมีมาตรฐานการให้ สินเชื่อไม่เกิน 40% ของรายได้
- รมช.คลัง เผยกระทรวงการคลังเตรียมจะเปิดตัวกองทุนตั้งตัวได้ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เพื่อให้นักศึกษาที่มีโครงการ ลงทุนได้ยื่นกู้ผ่านกองทุนดังกล่าว วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย ทั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะให้กลุ่มนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาที่ศึกษาอยู่หรือสำเร็จการศึกษาแล้วไม่เกิน 5 ปีการศึกษาและสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนการบ่มเพาะวิสาหกิจ หรือให้การช่วยเหลือด้านการเงินได้มีแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการประกอบอาชีพอิสระ มีระยะเวลาการดำเนินการกองทุนเบื้องต้น 4 ปี
- กรมสรรพสามิตเล็งปรับเพดานภาษีเบียร์หลังจัดเก็บเต็มเพดานมานาน หวังสกัดนักดื่มหน้าใหม่ พบตัวเลขจัดเก็บรายได้ปี 55 เก็บภาษีเบียร์ได้สูงถึง 6.4 หมื่นล้านบาทขณะที่ภาษีเครื่องดื่มประเภทชาเขียวรับเก็บภาษียาก หวั่นกระทบผู้ปลูกชา
*หุ้นเด่นวันนี้
- RML(เคทีบี)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.28 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 4Q55 ของบริษัท เนื่องจากมีกำหนดการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ The River ให้ลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก ขณะที่แนวโน้ม Presales คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดขายโครงการใหม่บนถนนเอกมัยในช่วง 1Q56
- BANPU(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 508.00 บาท ราคาถ่านหินปรับเพิ่มเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ล่าสุดอยู่ที่ 90.3 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 5% WoW และเป็นการเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ทำให้ถ่านหินในเดือน พ.ย.—ธ.ค.55 อยู่ที่ 82.4 เหรียญ (ลดลง 0.4% MoM) และ 90.3 เหรียญ เพิ่มขึ้น 10%YoY) ตามลำดับ ขณะที่ภาพรวมราคาถ่านหินเฉลี่ย 4Q55 (Qtd) อยู่ที่ 85.1 เหรียญต่อตัน ยังคงลดลง 5% QoQ และลดลง 26% YoY