นายสมชาย จองศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ CNT กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 56 เติบโต 5-10% หรือมียอดรายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ในระดับ 7.4 พันล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตที่ดีของอุตสาหกรรมการเกษตร การส่งออกรถยนต์ และธุรกิจก่อสร้าง ทำให้มีการขยายงานและการก่อสร้างโรงงานเพิ่มขึ้น เพราะธุรกิจประเภทนี้จำเป็นต้องมีการขยายโรงงานที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัท หรือประมาณ 29%ของรายได้รวม
ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมนั้นได้มีการส่งสัญญาณที่ดีจากที่มีบริษัทในประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และปีหน้าบริษัทจะเริ่มเข้ามารับงานโรงแรม รีสอร์ท และกลุ่มปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น
นายสมชาย กล่าวว่า บริษัทเน้นรับงานที่มีระยะเวลาสั้นไม่เกิน 1 ปี เช่น โรงงานอุตสาหกรรม และ Hypermarket เป็นต้น เนื่องจากมีความชัดเจนในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ มีความเสี่ยงต่ำ และราคาวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงค่าแรงมีความผันผวนน้อย ส่วนโครงการที่มีระยะยาวบริษัทก็ยังรับตามปกติอยู่ โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากภาคเอกชน 70% ภาครัฐ 30% ทำให้ Backlog ในปี 56 อาจเพิ่มเป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากสิ้นไตรมาส 3/55 บริษัทมี Backlog อยู่ที่ 7.36 พันล้านบาท และอัตรากำไรขึ้นต้นในปีหน้าจะพยายามรักษาให้อยู่ที่ประมาณ 6-8% เท่ากับปีนี้ ซึ่งเป็นนโยบายของบริษัทฯ
สำหรับผลประกอบการล่าสุด ไตรมาส 3/55 บริษัททำรายได้ 5.48 พันล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 50-60% เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีปัญหาน้ำท่วมเข้ามากระทบ ทำให้บางไซต์งานต้องหยุดการก่อสร้างไป ดังนั้น บริษัทจึงมีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้เข้ามา แต่ในปีนี้ไม่มีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้น ทำให้บริษัทรับงานที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และทำให้รายได้ในปีนี้เติบโตขึ้นจากปีที่แล้วคาดว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 7.4 พันล้านบาท