"การหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบสถาบันการเงินใหมี้ความมั่นคงเข้มแข็ง และมีศักยภาพในการแข่งขัน ซึ่ง ธปท. จะจัดให้มีการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นระยะในเรื่องที่สถาบันการเงินสนใจ เพื่อร่วมกันพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคธุรกิจและประชาชนต่อไป"ธปท.ระบุ
สรุปผลการหารือ ดังนี้ 1. แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ประชุมได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทย รวมทั้งความเสี่ยงในระยะข้างหน้า ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจโลก การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ และการขยายตัวของสินเชื่อในประเทศ
และในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค การโฆษณากระตุ้นการใช้จ่าย ธปท. ขอให้ธนาคารพาณิชย์ดูแลความสมดุลระหว่างกระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่ายกับการออม เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว สมาคมฯ เห็นด้วยว่า ธนาคารพาณิชย์ควรมีความรับผิดชอบไม่กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในสินค้าฟุ่มเฟือย 2.2 การดำเนินการของศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค ธปท. ขอความร่วมมือช่วยกันดูแลการจัดการเรื่องร้องเรียน รวมทั้งส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดี และเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงินอย่างสมบูรณ์ และมีบทบาทที่จะช่วยดูแลและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินอย่างเหมาะสม สมาคมฯ รับจะช่วยดูแล
รวมทั้ง การดูแลความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ และระบบ IT ปัจจุบันการดูแลความเสี่ยงด้านเครดิตและความเสี่ยงด้านตลาดของธนาคารพาณิชย์ที่มีพัฒนาการไปมากแล้ว แต่มาตรฐานสากลให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านปฏิบัติการมากขึ้น ดังนั้นธนาคารพาณิชย์ไทยควรใช้เครื่องมือใหม่ๆ เช่นการเก็บข้อมูลLoss Data เพื่อช่วยให้การควบคุมภายในดีขึ้น
นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้หารือในเรื่องการดำเนินการเรื่อง FATCA (Foreign Account Tax Compliance) ขอให้ ธปท.ช่วยประสานงานกับหน่วยงานรัฐในเรื่องนี้ ซึ่ง ธปท. รับจะนำเรื่อง FATCA หารือกับกระทรวงการคลังต่อไป และ ศูนย์การจัดการเงินสด ที่ประชุมได้หารือถึงทางเลือกการจัดการเงินสดที่เหมาะสมและช่วยประหยัดต้นทุนให้กับระบบ ในระหว่างนี้ ธปท. ขอให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการตามที่ได้หารือกับธปท. ไว้แล้ว