นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้น่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ก็มีโอกาสย่อตัว โดยในช่วงนี้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อ แต่ก็ระวังแรงเทขายทำกำไร เพราะตลาดปรับตัวขึ้นแรงมา 2-3 วันแล้ว ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ และ pop trade ขายออกมา
นอกจากนี้ ประเด็นที่จีนประกาศดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ออกมาดี ทำให้ผ่อนคลายปัญหาหนี้สาธารณะยุโรปและปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐ
วันนี้จึงมีโมเมมตัมเป็นบวก มองว่าเป็นโอกาสปรับพอร์ตมากกว่า ให้แนวรับไว้ที่ 1,328 จุด แนวต้านที่ 1,335 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(3 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,965.60 จุด ลดลง 59.98 จุด (-0.46%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,409.46 จุด ลดลง 6.72 จุด(-0.47%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,002.20 จุด ลดลง 8.04 จุด(-0.27%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 39.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 27.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 7.36 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ลดลง 4.66 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 8.76 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.82 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 3.30 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(3 ธ.ค.)1,332.92 จุด เพิ่มขึ้น 8.88 จุด(+0.67%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,963.79 ล้านบาท เมื่อ 3 ธ.ค.55
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(3 ธ.ค.) ปิดที่ 6.0 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.63/65 ปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาคและเงินยูโร
- หอการค้าไทย จี้รัฐบาลกำหนดทิศทางประเทศให้ชัดเจน เสนอพัฒนาการศึกษาให้รับการเปลี่ยนแปลงของโลก หลังจาก ดีลอยท์ เผยผลสำรวจความเห็น 550 ซีอีโอโลก ชี้อีก 5 ปี ไทยโดนเวียดนามแซงหน้าศักยภาพการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการผลิต ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มส่องประกายสดใสในแง่ความสามารถการแข่งขัน ขณะที่จีนยังครองอันดับหนึ่ง แบบไร้คู่เข่ง
- ศาลปกครองมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องผู้ตรวจการแผ่นดินล้มประมูล 3จี เหตุไม่มีอำนาจและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบทันที ตีความ กสทช.ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ส่วนตุลาการเสียงข้างน้อยเห็นต่างสมควรรับเรื่อง เหตุผู้ตรวจฯ มีสิทธิเสนอเพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะ "กทค." เตรียมประชุมรับทราบคำตัดสิน 7 ธ.ค. นี้ เผยผลสอบคณะกรรมการฮั้วไม่พบพิรุธประมูล 3จีเอกชน 3 ราย คาดแจกไลเซ่น 3จี ได้ไม่เกิน 20 ธ.ค.นี้ หวังเป็นของขวัญปีใหม่ ผ่านมาขณะที่ภาคเอกชนขานรับคำตัดสินพร้อมเร่งเปิดบริการทันที
- กูรูค้าปลีกกระตุ้นผู้ประกอบการเร่งปรับตัวรับเออีซี หนุนธุรกิจขยายเครือข่ายทั้งในและนอกประเทศ "เซเว่นฯ" เร่งผุดสาขา 540 แห่ง เล็งจัดทัพสู้คู่แข่งทั้ง"แฟมิลี่มาร์ท-ลอว์สัน" นักการตลาดชี้ปีหน้าปีทอง ห้างสรรพสินค้าสยายปีกภูธรหลังประชานิยมรัฐกระตุ้นอำนาจซื้อดันธุรกิจโต 12%
- จับตา ครม.งุบงิบไฟเขียวกรอบเอฟทีเอ เอ็นจีโอจ่อฟ้องศาลสู้, ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 4 ธ.ค.จะมีการพิจารณาร่างกรอบเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป(ไทย-อียู)ตามที่กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้เสนอ
- ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปี 2556 วางกรอบเงินเฟ้อไว้ที่ 2.8-3.4% ภายใต้เงื่อนไขน้ำมันตลาดดูไบเคลื่อนไหวที่ 100-120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนที่ 28.5-32.5 บาท/เหรียญสหรัฐ และรัฐบาลยังคงมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนอยู่
- รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เพื่อสรุปแนวทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทที่จะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศ โดยการหารือกันครั้งนี้ต้องได้ข้อสรุป แม้ว่าความเห็นจะไม่ตรงกัน จะปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังต่อไปไม่ได้ เพื่อให้มาตรการช่วยเหลือใช้ได้ทันทีในวันที่ 1 ม.ค.2556
- ธปท.หารือร่วมสมาคมแบงก์ 4 ประเด็น พร้อมขอให้แบงก์เข้มงวดการทำโฆษณาไม่ให้เป็นลักษณะกระตุ้นใช้จ่ายมากไป ยืนยันหนี้ครัวเรือนที่พุ่งยังไม่ถึงกับน่าห่วง รวมถึงอสังหาฯยังไม่ก่อฟองสบู่ ชี้ส่วนใหญ่เพิ่มในส่วนสินเชื่อบุคคลของนอนแบงก์ ด้านสมาคมแบงก์ฯ รับปากดูแลเรื่องการทำโฆษณา
- "กิตติรัตน์" ไม่ห่วงรายได้ปีนี้พลาดเป้า แม้จะได้รับผลกระทบจากการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ชี้ทิศทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นชัดเจน ระบุไม่ได้ตั้งเป้าจัดเก็บให้กรมสรรพากรเกินจำเป็น ขณะที่การคืนเงินในโครงการรถยนต์คันแรกที่มากขึ้นจะไม่กระทบรายจ่ายรวมของรัฐบาล ด้าน"แบงก์ชาติ"ระบุหนี้สาธารณะที่โตเกิน 60% หากถูกนำไปใช้ไม่เกิดประโยชน์ก็น่าเป็นห่วง เหตุทำให้ประเทศอ่อนแอ ยอมรับหากหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ในประเทศความน่ากังวลใจน้อยกว่า แต่ถ้าสัดส่วนหนี้สูงมากอาจกระทบความเชื่อมั่นได้เช่นกัน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินทิศทางเงินเฟ้อของไทยน่าจะขยับสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2556 โดยมีโอกาสเร่งตัวขึ้นจากระดับ 3%มาอยู่ในช่วง 3-3.6% โดยมีค่ากลางกรณีพื้นฐานที่ 3.3%
*หุ้นเด่นวันนี้
- CNT(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 9.2 บาท ผู้บริหารมีมุมมองในด้านบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในอนาคต เบื้องต้นประเมินกำไรปีนี้ 350 ล้านบาท(กำไรต่อหุ้น 0.70 บาท)เพิ่มขึ้น 112% และปี 2556 มีกำไรเท่ากับ 386 ล้านบาท(กำไรต่อหุ้น 0.77 บาท) เพิ่มขึ้น 10% CNT มีจุดเด่นคือ ไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย มีเงินสดในมือ และ เงินลงทุนชั่วคราวและพันธบัตรรัฐบาล 800 ล้านบาท ปันผลทุกไตรมาสประมาณ 0.1 บาท
- SIRI(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 3.7 บาท ยอดขายในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาซึ่งบริษัทสามารถทำไปได้แล้วถึง 40,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่มีการปรับล่าสุด จากการเปิดตัวโครงการใหม่ต่าง ๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ SIRI ปรับเป้าหมายใหม่ขึ้นเป็น 42,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 93% Presale ที่สูงในปีนี้จะหนุนผลประกอบการในสองปีข้างหน้าโดดเด่น
- HMPRO(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกค่อนข้าง Underperform เมื่อเทียบกับ SET ในช่วง 1 — 2 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลต่อผลประกอบการ 3Q55 ที่อ่อนแอ จึงมองเป็นโอกาสในการซื้อสะสม HMPRO จากแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกที่กำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในไตรมาสสุดท้าย และการจัดงาน HomePro Expo จะทำให้ยอดขายสูง รวมทั้งราคาหุ้นลดลงมากที่สุด และซื้อขายที่ PE ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่ม พร้อมให้แนวรับ 11.50 บาท แนวต้าน 12.00 บาท
- LPN(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 19.25 บาท น่าสนใจจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้สูง ที่จะรับรู้ใน 4Q55 ทำให้มีผลประกอบการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับทั้งปีต่อเนื่องถึงปี 2556 ทำให้กำไรปีหน้า คาดว่าจะเติบโตอีก 26% YoY นอกจากนี้ LPN ยังมีโอกาสจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 2H55 ราว 47 สตางค์ต่อหุ้น ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.6% จึงมองการอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นโอกาสในการลงทุน