สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าลดลง 37.92 จุด หรือ 0.40% แตะที่ 9,420.26 จุด
โบรกเกอร์กล่าวว่า หุ้นบริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออก เช่น โซนี่และแคนนอน ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนมีมุมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 49.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐกลับเข้าสู่ภาวะหดตัวอีกครั้งหลังจากที่ขยายตัวติดต่อกันสองเดือน
หุ้นกลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ กลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า และกลุ่มขนส่งทางทะเล ร่วงลงอย่างหนัก ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ถ่านหิน กลุ่มพลังงานไฟฟ้า และกลุ่มก๊าซ และกลุ่มอาหาร ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้
ในบรรดาหุ้นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกนั้น หุ้นแคนนอน ดิ่งลง 1.4% หุ้นฮิตาชิ ร่วงลง 1.5% โซนี่ลดลง 0.9%
หุ้นชาร์ปเพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากมีรายงานว่า โซนี่ และบริษัท ควอลคอมม์ อิงค์ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้อต้นเกี่ยวกับการร่วมทุนและธุรกิจกับควอลคอมม์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของสหรัฐ โดยจะมีการลงทุนมูลค่า 1 หมื่นล้านเยน