(เพิ่มเติม) QLT คาดปี 56 รายได้โต 10% อัตรากำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยจากผลปรับค่าแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 4, 2012 11:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ควอลลิเทค(QLT)ตั้งเป้ารายได้ปี 56 เติบโต 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 400 ล้านบาท แต่อัตรากำไรสุทธิคงลดลงเล็กน้อยจากปีนี้ เนื่องจากบริษัทต้องปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาล

ในปีหน้าบริษัทมีแผนยื่นประมูลงานใหม่ราว 100 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานราว 80% ของมูลค่าที่ยื่นประมูล ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(backlog)แล้ว 250 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งประมาณ 90 ล้านบาทในไตรมาส 4/55 ที่เหลือไปรับรู้ฯในปีหน้า ส่วนโครงการขยายธุรกิจไปรับงานในเวียดนามชะงักไปแล้วหลังจากที่ยังไม่สามารถเจรจาตกลงกับพันธมิตรได้สำเร็จ

นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ QLT เปิดเผยว่า อัตรากำไรสุทธิปี 56 มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยจากปีนี้ที่อยู่ในระดับ 22% เนื่องจากการปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำที่ทำให้ต้นทุนค่าแรงของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 10% อีกทั้งยังมีการแย่งชิงแรงงานสูงขึ้นในอุตสาหกรรม บริษัทจึงต้องมีการปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง และรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้ รวมถึงการปรับปรุงพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 10% จากปีนี้ โดยสิ้นไตรมาส 4/55 คาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 54 ที่มีรายได้ 357 ล้านบาท หรือเติบโต 10% หลังจาก 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้แล้ว 301 ล้านบาท ตามการเติบโตของอุตสาหกรรม และปริมาณงานที่ได้รับเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มี Backlog ประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งรับรู้รายได้ในปีนี้ 90 ล้านบาท และในปี 56 จะรับรู้ฯส่วนที่เหลืออีก 160 ล้านบาท

ส่วนการประมูลงานในปี 56 มูลค่า 100 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้รับงานประมาณ 80% ของงานที่ได้ยื่นประมูลไป โดยขณะนี้มีงานรอผลประมูลคืองานตรวจสอบท่อก๊าซของกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ที่มีแผนวางท่อส่งก๊าซอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ วังน้อย-นครสวรรค์ และ แก่งคอย-นครราชสีมา คาดว่าจะทราบผลชัดเจนในไตรมาส 1/56

ด้านการเข้าไปร่วมลงทุนในประเทศเวียดนาม นายสรรพัชญ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้การเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นยังไม่ประสบผลสำเร็จ และมูลค่าเงินลงทุนไม่ตอบสนองตามนโยบายของบริษัทฯ ขณะนี้บริษัทฯได้เริ่มมองหาพันธมิตรรายใหม่ แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัด คงต้องรอจังหวะที่ดีในการลงทุน โดยปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของเวียดนามยังสูงถึง 2 หลัก จึงมองว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการเข้าไปลงทุน

สำหรับโครงการในพม่า ขณะนี้การเจรจาได้รับผลตอบรับที่ดีจากพันธมิตร ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ซึ่งพนักงานส่วนหนึ่งจะเป็นคนในท้องถิ่นเข้ามาฝึกงาน เนื่องจากต้องการให้คนในประเทศมีความรู้สึกในการมีส่วนร่วมกับโครงการ โดยบริษัทมองว่าธุรกิจในประเทศพม่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ