(เพิ่มเติม) TPOLY รับรายได้ปีนี้พลาดเป้า คาดปี 56 พลิกเป็นกำไร-รายได้โตกระโดด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 4, 2012 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยโพลีคอนส์(TPOLY)ปรับลดเป้ารายได้ในปี 55 ลงเหลือ 2.4 พันล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน พลาดเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้ 2.8-3.0 พันล้านบาท และยังขาดทุน พร้อมคาดรายได้เติบโตก้าวกระโดดในปีหน้าเป็น 3.7 พันล้านบาท และผลประกอบการพลิกเป็นกำไรสุทธิ โดยขณะนี้มีงานในมือ(backlog)แล้ว 3.8-4.0 พันล้านบาทและตั้งเป้าในปีหน้าเพิ่มเป็น 5 พันล้านบาท

บริษัทยังตั้งเป้าหมายในปี 58 รายได้พุ่งแตะ 5 พันล้านบาท หลังจากรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้า 4 แห่งที่จะเข้ามาราว 800 ล้านบาท นอกจากนั้นยังเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้ามูลค่าราว 2 พันล้านบาท หากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความชัดเจน

นายเจริญ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ TPOLY กล่าวว่า รายได้ในปีนี้จะไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 3 พันล้านบาท เป็นผลกระทบสืบเนื่องมาจากสถานการณ์น้ำท่วมช่วงปลายปี 54 ทำให้งานล่าช้าจากการหยุดก่อสร้างในเดือน ต.ค.-พ.ย.54 และปัญหาค่าก่อสร้างที่ราคาสูงขึ้น ทำให้ปีนี้บริษัทรับงานได้น้อยลงกว่าปีก่อน

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อว่ารายได้ปีนี้ยังจะทำได้ใกล้เคียงกับปี 54 ที่ 2.4 พันล้านบาท โดยที่บริษัทได้เพิ่มระบบการจัดการให้ดียิ่งขึ้น และได้มีการปรับราคาค่าก่อสร้างใหม่ให้เพิ่มขึ้นตามราคาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งใน 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 1.8 พันล้านบาท แต่ทั้งปีก็คง ยังจะขาดทุนอยู่ โดยปัจจุบันขาดทุนอยู่ที่ประมาน 85 ล้านบาท

นายเจริญ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปี 56 จะมีรายได้ประมาณ 3.7 พันล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้จาก Backlog ประมาน 3 พันล้านบาท และจะรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ โครงการโมเดิร์นทาวน์โฮมอีก 500 ล้านบาท พร้อมทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้ โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าช้างแรกไบโอพาวเวอร์ใน จ.นครศรีธรรมราช ขนาด 9.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีรายได้กว่า 200 ล้านบาท

พร้อมกันนั้น บริษัทยังคาดว่าในปี 56 อัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น โดยธุรกิจโรงไฟฟ้ามีอัตรากำไรสุทธิกว่า 12% และอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีอัตรากำไรอยู่ที่ประมาณ 9%

นายเจริญ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังรอความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู เพื่อกำหนดแผนก่อสร้างคอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้ออกแบบและเตรียมแผนการก่อสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้า โดยโครงการดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น และราคาขาย 4-5 หมื่นบาท/ตร.ม.

ส่วนโครงการกรีนิช รามอินทรา มูลค่าโครงการ 700-750 ล้านบาท ได้เปิดทดลองขายไปแล้วและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยขณะนี้มียอดจองเข้ามากว่า 30% คาดว่าจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/55 ประมาณ 50-60 ล้านบาท และในส่วนที่เหลืออยู่จะสามารถรับรู้รายได้ในปี 56

สำหรับปี 57 คาดว่ารายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านบาท หลังจากที่โรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่งสามารถเดินเครื่องได้เต็มที่และรับรู้รายได้เข้ามาทั้งหมด โดยในปีหน้าจะลงทุนสร้างอีก 2 โครงการ มูลค่าประมาน 1,400 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางงระดมทุนที่เหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ