ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าในไตรมาส 4 นี้จะมียอดขายในส่วนของระบบประตูหน้าต่างเฟลทเชอร์ประมาณ 20 ล้านบาทจากยอดขายทั้งหมด ขณะที่ระบบประตูหน้าต่างมีมูลค่ารวมของตลาดมากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี โดยระบบประตูหน้าต่างคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5-10 % ของงบก่อสร้าง
การเซ็นสัญญาครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากโครงการ “ทอสคานา วัลเลย์" เป็นโครงการที่พักตากอากาศบนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่เขาใหญ่ มีพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ และมีสิ่งก่อสร้างที่เน้นความสะดวกสบายและมีคุณภาพ โดยระบบประตูหน้าต่างเฟลทเชอร์ อาจมีโอกาสที่จะขยายไปยังส่วนอื่นๆ ของทอสคานาฯ เพิ่มเติมในอนาคต เช่น บ้านพักตากอากาศ เป็นต้น
นายสัญชัย กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมระบบประตูหน้าต่าง (เฟลทเชอร์) ในภูมิภาคเอเชียภายในปี 58 เนื่องจากการขยายตัวของตลาด โรงแรม รีสอร์ท และ บ้านพักตากอากาศ มีมากขึ้น ซึ่งที่พักอาศัยเหล่านี้ต้องการวัสดุที่สะดวกต่อการติดตั้ง มีคุณภาพสูง มีความทันสมัยและดีไซด์ที่สวยงาม ทั้งมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีเยี่ยม
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และความคล่องตัวในการบริหารงาน รวมถึงการขยายของตลาดเกิดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนของสินค้าระบบประตูหน้าต่างเฟลทเชอร์ บริษัทฯ จึงเตรียมที่จะตั้งบริษัทย่อย คือ เฟลทเชอร์ เอเชีย ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากมติคณะกรรมการบริษัทแล้ว
อนึ่ง BSM เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ ระบบผนังกั้นห้อง (Alloy Partitioning Systems) ผลิตภัณฑ์ยิปซั่มครบวงจร (Gypsum Wall & Ceiling Products) และระบบประตูหน้าต่าง (Fletcher Door & Window Systems) ซึ่งบริษัทตั้งเป้าภายในปี 58 ว่าจะมีกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี และมียอดขายที่ 1,000 ล้านบาท