ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 39.55 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 13,074.04 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.66 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 1,413.94 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,989.27 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 25,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 370,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ 380,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 393,000 ราย นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 การเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของกระทรวงแรงงานสหรัฐมีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 100,000 ตำแหน่งและคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.9%
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากอีซีบีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้และปีหน้า พร้อมกับคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งก็ในช่วงปลายปี 2556
นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 0.5% ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าก่อนหน้านี้ที่เคยคาดว่าจะหดตัว 0.4% ส่วนในปี 2556 นั้น คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลง 0.3% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 0.5% และในปี 2557 นั้น อีซีบีคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวราว 0.2-2.2%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นและมีส่วนช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยหุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการใช้จ่ายกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในปีหน้าเพื่อสร้างโรงงานผลิตคอมพิวเตอร์แมคในสหรัฐ ขณะที่หุ้น Akamai Technologies ทะยานขึ้น 10% หลังจากบริษัทบรรลุข้อตกลงขายธุรกิจกับเอทีแอนด์ที
หุ้นสตาร์บั๊คส์ พุ่งขึ้น 5.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของโรเบิร์ต แบรด์ แอนด์ โค ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นสตาร์บั๊คส์ ส่วนหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ร่วงลง 4.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีเอ็มโอ แคปิตอล แอนด์ แมคควอรี กรุ๊ป ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว